วันนี้ (14 มิ.ย.) นักวิเคราะห์การก่อการร้ายของสำนักข่าว ซีเอ็นเอ็น เปิดเผยโดยอ้างแหล่งข่าวใกล้ชิดกับการสืบสวนเหตุฆาตกรรมรองผู้บัญชาการตำรวจเมืองเลส์ มูเรอซ์ ของฝรั่งเศส พร้อมภรรยาเมื่อคืนที่ผ่านมา ว่า ผู้ก่อเหตุได้ถ่ายทอดสดการบุกสังหาร และจับตัวประกันครั้งนี้ ผ่านทางเฟซบุ๊ค พร้อมกับแสดงความไม่แน่ใจผ่านสื่อสังคมออนไลน์ว่า จะจัดการกับเด็กชายอายุ 3 ปี ซึ่งเป็นบุตรของนายตำรวจคนนี้อย่างไรดี ขณะถูกจับเป็นตัวประกัน จนกระทั่งถูกหน่วยปฏิบัติการพิเศษของฝรั่งเศส บุกจู่โจมช่วยเหลือตัวประกันและสังหารผู้ก่อเหตุ หลังจากการเจรจาไม่เป็นผล ขณะที่เด็กปลอดภัยและไม่ได้รับบาดเจ็บจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
โดยสื่อหลายสำนักระบุตัวผู้ก่อเหตุ คือ นายลารอสซี อับบาลา ชาวฝรั่งเศส วัย 25 ปี ซึ่งมีประวัติเคยถูกตัดสินจำคุกเป็นเวลา 3 ปี เมื่อปี 2556 ในข้อหามีส่วนเกี่ยวข้องกับกลุ่มก่อการร้าย รวมทั้งมีบทบาทในกลุ่มนักรบญิฮาด ที่เชื่อมโยงกับปากีสถาน นอกจากนี้กำลังถูกเจ้าหน้าที่สืบสวนในกรณีการมีส่วนเชื่อมโยงกับเครือข่ายนักรบญิฮาดในซีเรียอีกด้วย
ล่าสุดมีรายงานว่า ตำรวจฝรั่งเศสได้ควบคุมตัวผู้ต้องสงสัยที่อาจจะมีส่วนเกี่ยวข้องกับผู้ก่อเหตุ จำนวน 2 คน ซึ่งขณะนี้กำลังถูกสอบสวนอยู่
ด้านนายฟรองซัวส์ ออลลองด์ ประธานาธิบดีฝรั่งเศส ประกาศว่า เหตุสังหารที่เกิดขึ้นเป็นการก่อการร้ายอย่างไม่อาจปฏิเสธได้ พร้อมทั้งระบุว่า ฝรั่งเศสกำลังเผชิญกับภัยคุกคามการก่อการร้ายครั้งใหญ่
ขณะที่สหรัฐอเมริกาและอังกฤษออกประกาศเตือนพลเมืองของตนที่เข้าร่วมชมการแข่งขันฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป หรือ ยูโร 2016 หลังจากมีความเป็นไปได้ที่จะมีการก่อการร้ายเกิดขึ้น
ก่อนหน้านี้ มีรายงานว่า นายอับบาลาได้กล่าวอ้างความภักดีต่อกลุ่มรัฐอิสลาม หรือ ไอเอส ในระหว่างการเจรจากับตำรวจ รวมทั้งสำนักข่าวอามัคที่เชื่อมโยงกับกลุ่มไอเอส ยังระบุด้วยว่า นักรบไอเอสเป็นผู้ก่อเหตุในครั้งนี้
ส่วนบรรยากาศในเมืองออร์แลนโด รัฐฟลอริดา สหรัฐอเมริกา ยังคงอยู่ในความเศร้าโศก โดยชาวเมืองหลายพันคนพร้อมใจกันออกมาจุดเทียนไว้อาลัยให้กับผู้เสียชีวิตทั้ง 49 คน
ขณะที่มีรายงานโดยอ้างข้อมูลจากนักแสดงประจำพัลส์ คลับ ระบุว่า ก่อนหน้านี้นายโอมาร์ มาทีน ผู้ก่อเหตุเคยมาใช้บริการในคลับแห่งนี้หลายต่อหลายครั้ง เฉลี่ยประมาณเดือนละ 2 ครั้ง นานประมาณ 3 ปี และมีความคุ้นเคยกับพนักงานและผู้ที่มาใช้บริการเป็นอย่างดี
ขณะที่บางคนเชื่อว่านายมาทีนเป็นหนึ่งในกลุ่มหลากหลายทางเพศ ซึ่งถือเป็นข้อมูลที่ขัดแย้งกับอดีตเพื่อนร่วมงานของนายมาทีน ที่ระบุว่า เขามีอารมณ์ฉุนเฉียวรุนแรง และมักแสดงการต่อต้านกลุ่มผู้มีความหลากหลายทางเพศอย่างชัดเจน