วันนี้ (15 มิ.ย.) ปริมาณน้ำใช้การเขื่อนภูมิพลที่วิกฤตมากกว่าอ่างเก็บน้ำอื่นๆ ทำให้หน่วยปฎิบัติการณ์ฝนหลวงจ.พิษณุโลก ต้องย้ายฐานปฎิบัติการณ์ฝนหลวง มาที่จ.ตาก ตั้งแต่ต้นเดือนมิถุนายน หรือเร็วขึ้นกว่ากำหนดเดิม 2เดือน เพื่อให้ฝนตกในพื้นที่ลุ่มรับน้ำเขื่อนภูมิพล ควบคู่ไปกับการทำฝนหลวงในจ.เชียงใหม่ พื้นที่ต้นน้ำของเขื่อนภูมิพล
แต่นักวิทยาศาสตร์ชำนาญการพิเศษ กรมฝนหลวงฯ บอกว่า ปฎิบัติการณ์นี้ไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะเขื่อนภูมิพลมีพื้นที่รับน้ำขนาดใหญ่ ต้องใช้เวลาเติมน้ำนานกว่าเขื่อนอื่น ๆ
ฤดูแล้งกรมฝนหลวงและการบินเกษตร ได้ปฎิบัติการณ์เติมน้ำเขื่อนมากกว่า 2,000 เที่ยวบิน หรือมากกว่าเที่ยวบินพาณิชย์ทั่วไป แต่ก็สามารถเติมน้ำมากสุดได้เพียง 200 ล้านลูกบาศ์กเมตรเท่านั้น แม้จะมากที่สุดเท่าที่เคยทำฝนหลวง แต่ก็ไม่มากพอ ที่จะพ้นวิกฤตไปได้ จึงยังคงเร่งเติมน้ำเขื่อนอย่างต่อเนื่อง
ขณะนี้ไม่ใช่แค่เขื่อนภูมิพลเท่านั้น ที่ต้องเร่งฟื้นฟูความมั่นคงทางน้ำ แต่เขื่อนอุบลรัตน์ จ.ขอนแก่น ก็เป็นอีกอ่างเก็บน้ำ ที่หน่วยปฎิบัติการณ์ฝนหลวงภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ต้องเร่งเติมน้ำในเขื่อนให้ได้มากที่สุดเช่นกันก่อนที่จะสิ้นฤดูฝนในเดือนพ.ย.นี้