วันนี้ (15 มิ.ย.) รศ.ดร.พญ. สาวิตรี อัษณางค์กรชัย ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยปัญหาสุรา (ศวส.) กล่าวถึงกรณีแฟนบอลอังกฤษและรัสเซีย ดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์แล้วก่อเหตุปะทะกันอย่างรุนแรงในสนามแข่งขันฟุตบอลยูโร2016 กระทั่งรัฐบาลฝรั่งเศสประกาศห้ามขายห้ามดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์รอบบริเวณใกล้เคียงสนาม ทั้งก่อนวันแข่ง และระหว่างวันแข่งฟุตบอลยูโรในประเทศฝรั่งเศส ว่า ถือเป็นการตัดสินใจที่ถูกต้องและเห็นด้วยอย่างยิ่ง เนื่องจากแต่ละทีมจะมีแฟนบอลของตนเองและมักติดตามทีมหรือสโมสรไปทุกที่ที่มีการแข่งขัน เมื่อทีมแข่งแพ้หรือเสมอกัน แฟนบอลอาจไม่พอใจและมีเหตุทะเลาะวิวาทกัน ยิ่งถ้าแฟนบอลที่มาเชียร์ในสนามดื่มเหล้าเบียร์ด้วย ยิ่งทำให้เกิดความก้าวร้าวรุนแรง ขาดความยับยั้งชั่งใจ ทะเลาะวิวาท หรือขว้างปาขวดเหล้า กระป๋องเบียร์กันได้อย่างรุนแรงมากขึ้น ดังนั้น ถ้าเราสามารถห้ามไม่ให้มีการขายเหล้าเบียร์และไม่ให้ดื่มในสนามหรือสถานที่จัดกิจกรรมสาธารณะอื่นๆ จะช่วยลดเหตุทะเลาะวิวาทระหว่างคนที่มาเชียร์กีฬาเหล่านี้ได้มาก
“มาตรการห้ามขายห้ามดื่มก่อนวันและระหว่างวันแข่งขัน เป็นมาตรการที่ควรทำอย่างมาก เพราะจะช่วยป้องกันเหตุรุนแรงได้ เนื่องจากแอลกอฮอล์มีผลต่อการทำงานของประสาทสมอง เวลาที่ดื่มเข้าไป จะรู้สึกมึนและเมา การควบคุมตนเองลดลง ขาดความยับยั้งชั่งใจ ไม่สามารถตัดสินใจอะไรได้ดี อาจวู่วามทำอะไรแบบหุนหันพลันแล่นไม่ได้ไตร่ตรองโดยเฉพาะการดื่มในสนามฟุตบอลหรือระหว่างเชียร์กีฬาซึ่งมีคนจำนวนมาก เสียงดัง มีบรรยากาศของการแข่งขันแบ่งฝักแบ่งฝ่าย โอกาสที่จะเกิดเหตุการณ์รุนแรงย่อมมีมากขึ้น และเมื่อแอลกอฮอล์เข้าไปในร่างกายแล้วกว่าจะถูกเผาผลาญกำจัดออกจนหมดฤทธิ์ใช้เวลานานมากหลายชั่วโมง ดังนั้นคนที่ดื่มตั้งแต่คืนก่อนการแข่งขันโดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าดื่มหนักจนดึกดื่น บางทีเช้าขึ้นมาแอลกอฮอ์ก็ยังไม่หมดฤทธิ์ และมีอาการมึนงง ปวดศีรษะอาจทำให้หงุดหงิดรำคาญใจ และหากมาดื่มอีกในขณะเชียร์บอลหรือถูกกระตุ้นด้วยเสียงดังหรือบรรยากาศของการแข่งขันที่ตึงเครียด ยิ่งเกิดอารมณ์รุนแรง” พญ.สาวิตรี กล่าว
แท็กที่เกี่ยวข้อง: