ค้นหา
ทีวีออนไลน์
เว็บไซต์ในเครือ
เว็บไซต์บริการ

ตำรวจเตรียมกำลัง 4 กองร้อย พร้อมเข้าตรวจค้นวัดพระธรรมกาย

อาชญากรรม
16 มิ.ย. 59
06:33
412
Logo Thai PBS
ตำรวจเตรียมกำลัง 4 กองร้อย พร้อมเข้าตรวจค้นวัดพระธรรมกาย
ชุดปราบไพรีอริศัตรูพ่ายเข้าประจำการเตรียมพร้อมปฏิบัติการหากดีเอสไอขอกำลังสนับสนุนตรวจค้นวัดพระธรรมกาย อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี หลังจากศาลอาญาอนุมัติหมายค้นวานนี้

เวลา 06.00 น.วันนี้ (16 มิ.ย.2559) ผู้สื่อข่าวรายงานความเคลื่อนไหว ที่ สภ.คลองหลวง จังหวัดปทุมธานี มีตำรวจจากภูธรภาค 1 จำนวน 4 กองร้อย หรือ 600 นาย พร้อมตำรวจกองสื่อสาร และแพทย์โรงพยาบาลตำรวจ ร่วมประชุมที่ศูนย์ปฎิบัติการส่วนหน้าตำรวจภูธรจังหวัดปทุมธานีเพื่อประเมินสถานการณ์ กรณีสนับสนุนการร้องขอกำลังของกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) เพื่อเข้าตรวจค้นวัดพระธรรมกาย

ขณะที่ พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รอง ผบ.ตร และ พล.ต.ท.ชัยวัฒน์ เกตุวรชัย ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 ได้เดินทางมาร่วมประชุมและตรวจความพร้อมร่วมกับผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดปทุมธานี นายอำเภอคลองหลวงและดีเอสไอ เพื่อประเมินสถานการณ์ที่ศูนย์ปฎิบัติการส่วนหน้าฯ

พล.ต.ท.ชัยวัฒน์ ระบุว่า เบื่องต้นได้เตรียมกำลังตำรวจไว้ประมาณ 3-4 กองร้อย โดยยืนยันว่ามีการประสานงานร่วมกันอยู่แล้วและหากมีการร้องขอกำลังสนับสนุนก็พร้อมจะเข้าดำเนินการทันที ส่วนการนำหมายศาลเข้าตรวจค้นเป็นอำนาจหน้าที่ของพนักงานสอบสวนดีเอสไอ ซึ่งอยู่ระหว่างการรวมพลเพื่อกำหนดแนวทางนำหมายศาลเข้าตรวจค้นภายในวัดพระธรรมกาย

ขณะเดียวกันในพื้นที่ สภ.คลองหลวง ได้มีการนำรถคุมขังผู้ต้องหา รถพยาบาลจากโรงพยาบาลตำรวจ พร้อมทีมแพทย์ 5 นายและรถดับเพลิง มาประจำจุดเตรียมความพร้อมหากมีการปฏิบัติการเข้าตรวจค้นและควบคุมตัวพระเทพญาณมหามุณี หรือพระธัมมชโย เจ้าอาวาสวัดพระธรรมกาย

พ.ต.ท.สมบูรณ์ สาระสิทธิ รองอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) ยืนยันว่า ด้านการข่าวพระธัมมชโยยังอยู่ในวัดพระธรรมกาย อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี พร้อมระบุหมายค้นใช้ได้เพียงภายในวันนี้ (16 มิ.ย.) เท่านั้น โดยการนำหมายเข้าค้นวัดพระธรรมกายนั้นจะเริ่มเวลา 08.00-09.00 น. ซึ่งจะต้องประเมินความเสียหายที่เกิดขึ้นก่อนหากไม่สามารถนำกำลังเข้าตรวจค้นได้ก็จะกลับมาประชุมประเมินสถานการณ์อีกครั้ง พร้อมยืนยันหากมีการขัดขวางการดำเนินการจะดำเนินคดีตามกฎหมายอาญา มาตรา 189

สำหรับประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 189 บัญญัติว่า "ผู้ใดช่วยผู้อื่นซึ่งเป็นผู้กระทำความผิด หรือเป็นผู้ต้องหาว่ากระทำความผิด อันมิใช่ความผิดลหุโทษ เพื่อไม่ให้ต้องโทษ โดยให้พำนักแก่ผู้นั้น โดยซ่อนเร้น หรือโดยช่วยผู้นั้นด้วยประการใดเพื่อไม่ให้ถูกจับกุม ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสองปี หรือปรับไม่เกินสี่พันบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ"

พ.ต.ต.สุริยา สิงหกมล รองอธิบดีดีเอสไอ กล่าวว่า ในการเข้าตรวจค้นวัดพระธรรมกายครั้งนี้จะทำการอย่างละมุนละม่อม เนื่องจากไม่อยากให้เกิดเหตุการณ์รุนแรง โดยจะมีการประเมินสถานการณ์ทุกนาที หากเข้าไปตรวจค้นแล้วยังไม่พบพระธัมมชโย ก็จะต้องค้นให้ครบพื้นที่ตามที่ศาลอนุมัติหมายค้นจำนวน 196 ไร่

"ทั้งนี้หากพบพระธัมมชโยตนจะมีการแจ้งข้อกล่าวหาตามกฎหมาย ยืนยันทุกขั้นตอนดำเนินการตามระเบียบทางกฎหมายทั้งหมด" พ.ต.ต.สุริยา กล่าว

ขณะที่ในช่วงเช้า เริ่มมีศิษยานุศิษย์เดินทางมาที่วัดพระธรรมกายจำนวนมาก

ข่าวที่เกี่ยวข้อง