วันนี้ (30 มิ.ย.2559) ศาลปกครองกลางนัดอ่านคำพิพากษา กรณีนายชินภัทร ภูมิรัตน อดีตเลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน ยื่นฟ้องนายเสริมศักดิ์ พงษ์พานิช อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ กับพวกรวม 3 คน ในคดีพิพาทเกี่ยวกับหน่วยงานทางปกครอง หรือเจ้าหน้าที่รัฐกระทำการโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย โดยวันนี้นายชินภัทรส่งตัวแทนเข้ารับฟังคำพิพากษา ส่วนผู้ถูกฟ้องไม่มีตัวแทนมารับฟัง
สืบเนื่องจากในช่วงปี 2556 รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการในขณะนั้น สั่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงนายชินภัทร หลังถูกกล่าวหาว่ากระทำผิดวินัยร้ายแรง กรณีพบการทุจริตสอบครูผู้ช่วย กรณีมีความจำเป็น หรือ ว.12 ซึ่งเห็นว่าเป็นคำสั่งไม่ชอบด้วยกฎหมาย นายชินภัทรได้ร้องทุกข์เรื่องนี้ต่อคณะกรรมการพิทักษ์ระบบคุณธรรม (ก.พ.ค.) แต่กลับมีมติยกคำร้องจึงขอให้ศาลปกครองเพิกถอนคำวินิจฉัยของ ก.พ.ค.ที่ไม่รับเรื่องร้องทุกข์
ศาลปกครองชั้นต้นวินิจฉัยแล้วเห็นว่า นายชินภัทรผู้ฟ้องนั้นมีสิทธิยืนฟ้องในประเด็นของคำสั่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงวินัยร้ายแรง และการดำเนินการไม่ชอบด้วยกฎหมายนั้น ศาลเห็นว่า ข้ออ้างนี้ไม่อาจรับฟังได้ ส่วนประเด็นที่ผู้ฟ้องขอให้ยกคำร้องของ ก.พ.ค.นั้น ศาลวินิจฉัยแล้วเห็นว่า ก.พ.ค.ดำเนินการชอบด้วยกฎหมาย จึงพิพากษายกฟ้อง
กรณีนี้ นายชินภัทร ถูกคำสั่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนวินัยร้ายแรง หลังพบการทุจริตในขั้นตอนการสอบครูผู้ช่วย เมื่อปี 2556 โดยผลการสอบสวนพบว่า พฤติกรรมของนายชินภัทร เข้าข่ายละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ ไม่ระงับ ยับยั้ง ปล่อยให้มีการประกาศผลสอบทั้งที่พบขบวนการทุจริตสอบ เช่น ข้อสอบรั่ว , ผู้เข้าสอบได้คะแนนสูงผิดปกติกว่า 500 คน และพบรายชื่อผู้ผ่านการสอบซ้ำกันหลายพื้นที่
ล่าสุดเมื่อเดือน เม.ย.ที่ผ่านมา คณะอนุกรรมการข้าราชการพลเรือน (อ.ก.พ.) สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐานพิจารณาโทษทางวินัยนายชินภัทรโดยมีมติให้ปลดออกจากราชการ