วันนี้ (3 ก.ค.2559) นายอลงกรณ์ พลบุตร รองประธานสภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ เปิดเผยว่า ขณะนี้การออกเสียงประชามติมาถึงโค้งสุดท้ายแล้ว จึงหวังว่าฝ่ายที่รับหรือไม่รับร่างรัฐธรรมนูญจะเร่งชี้แจงแสดงเหตุผลข้อดีข้อด้อย เพื่อให้ประชาชนนำไปประกอบการตัดสินใจอย่างอิสระ แต่ละฝ่ายไม่ควรครอบงำหรือรณรงค์ชี้นำต้องเชื่อว่าประชาชนสามารถคิดได้เอง เพราะประเทศไทยมีประชาธิปไตยมา 84 ปีแล้ว และมีรัฐธรรมนูญมาแล้วถึง 19 ฉบับ ทางด้าน กกต.ผู้จัดการออกเสียงประชามติและดูแลกฎหมายควรยึดแนวทางเปิดกว้างและผ่อนปรนเป็นหลัก จะทำให้บรรยากาศทางการเมืองผ่อนคลายลง ทุกฝ่ายควรตระหนักว่าการออกเสียงประชามติคือความชอบธรรมของร่างรัฐธรรมนูญ
สำหรับการที่ฝ่ายการเมืองเสนอให้มีการพบปะพูดคุยกันเพื่อหาทางออกของประเทศนั้น นายอลงกรณ์ กล่าวว่า หากเป็นไปด้วยสุจริตใจและยึดประโยชน์ประเทศเป็นที่ตั้งก็ถือเป็นเจตนาที่ดี การหันหน้าเข้าหากันโดยเฉพาะพรรคการเมืองหลักๆ เป็นหนทางที่ดีที่สุดสำหรับประเทศ โดยเชื่อว่าการเมืองต้องแก้ด้วยการเมืองและมั่นใจว่าหลังการออกเสียงประชามติจะมีการผ่อนคลายให้พรรคการเมืองสามารถประชุมและขับเคลื่อนการปฏิรูปตัวเองเพื่อเตรียมพร้อมสำหรับการเลือกตั้งในปีหน้าตามโรดแมปที่นายกรัฐมนตรีประกาศไว้
อย่างไรก็ตาม การจะทำให้บรรยากาศทางการเมืองดีขึ้นหรือไม่ยังขึ้นกับว่าแต่ละฝ่ายจะปรับเปลี่ยนการกล่าวหาโจมตีเป็นการวิพากษ์วิจารณ์เชิงคุณภาพและสร้างสรรค์ได้มากน้อยเพียงใดด้วย
แท็กที่เกี่ยวข้อง: