"สินธุ์เพชร" แถลงทั้งน้ำตา เผยยายบอกก่อนแข่งให้เอาเหรียญกลับไปให้ได้

กีฬา
9 ส.ค. 59
07:25
843
Logo Thai PBS
"สินธุ์เพชร" แถลงทั้งน้ำตา เผยยายบอกก่อนแข่งให้เอาเหรียญกลับไปให้ได้
สินธุ์เพชร กรวยทอง นักยกน้ำหนักทีมชาติไทย เจ้าของเหรียญทองแดงโอลิมปิก 2016 เปิดเผยความรู้สึกหลังจากทราบว่าคุณยายเสียชีวิตขณะที่เชียร์เขาแข่งขันเมื่อวานนี้ (8 ส.ค.2559) เผยยายบอกผ่านโทรศัพท์ก่อนแข่ง ให้เอาเหรียญกลับมาให้ได้

สินธุ์เพชร นักกีฬาจาก จ.สุรินทร์ สร้างประวัติศาสตร์คว้าเหรียญทองแดงโอลิมปิกเหรียญแรกให้ทีมนักยกน้ำหนักชาย โดยทำการแข่งขันรุ่น 56 กก. แต่ข่าวดีก็มาพร้อมกับข่าวร้ายเมื่อ นางสุบิน คงทัพ วัย 82 ปี คุณยายของสินธุ์เพชรที่เลี้ยงดูเขามาตั้งแต่เล็ก เป็นลมหมดสติขณะเชียร์หลานชายอยู่ที่บ้านใน จ.สุรินทร์ ญาติรีบนำส่งโรงพยาบาลแต่แพทย์บอกว่าเสียชีวิตแล้ว

ในการให้สัมภาษณ์หลังการแข่งขัน สินธุ์เพชรซึ่งขณะนั้นยังไม่ทราบข่าวคุณยายเสียชีวิต ได้กล่าวขอบคุณทุกคนที่อยู่เบื้องหลังความสำเร็จของเขา รวมทั้งแม่และคุณยาย โดยเขาบอกว่าจะกลับบ้านที่ จ.สุรินทร์ ไปฉลองหมอลำ 3 วัน 3 คืน กับญาติๆ และกองเชียร์ที่บ้าน

วันนี้ (9 ส.ค.) สินธุ์เพชรให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนโดยบอกว่าเขาทราบข่าวการเสียชีวิตของยายหลังจากกลับไปที่ห้องพักในหมู่บ้านนักกีฬาและเปิดเฟซบุ๊กอ่านข่าว

"เมื่อคืนกลับไปที่ห้องก็เปิดเฟซบุ๊กดูเห็นข่าวว่ายายเสียแล้ว ผมอึ้ง จะร้องไห้ แต่โค้ชมาห้ามไว้บอกว่าไม่ต้องร้องเพราะโตแล้วให้อดทน ผมจะเอาเหรียญนี้ไปให้ยาย" เขากล่าว และเล่าถึงความผูกพันระหว่างเขากับยายว่า เมื่อตอนที่ยังเด็ก แม่ต้องไปทำงานที่อื่นหลายวันก็มักจะฝากเขากับน้องให้ยายเลี้ยง

"ผมก็ดื้อบ้าง ยายสอนหลายอย่าง ก่อนแข่งโทรศัพท์ไปหาแม่ ยายอยู่ที่บ้านด้วย ยายบอกว่าจะเชียร์ และให้เอาเหรียญกลับไปให้คนไทยให้ได้ และผมก็ทำได้แล้ว" ผู้สื่อข่าวถามว่าอยากบอกอะไรกับคุณยายเขากล่าวพร้อมกับสะอื้นว่า "ผมคิดถึงยายครับ ผมรักยาย ผมอยากจะกลับไปกอดยาย ผมนอนไม่หลับ กินข้าวก็ไม่ได้ แต่แม่ก็ให้กำลังใจบอกว่าไม่เป็นไร ทางบ้านจะจัดการงานศพให้เรียบร้อย"

สินธุ์เพชรบอกว่าหลังจากนี้เขาจะปรึกษากับโค้ชเรื่องการเดินทางกลับประเทศไทยเพื่อไปร่วมงานศพของคุณยายสุบิน

การเสียชีวิตของคุณยายสุบินระหว่างเชียร์หลานชาย ทำให้แพทย์ออกมาแนะนำให้ผู้สูงอายุ โดยเฉพาะผู้ที่เป็นโรคหัวใจหลีกเลี่ยงการชมการถ่ายทอดสดการแข่งขันกีฬาที่้ต้องมีการลุ้นมากๆ

นพ.เกรียงไกร เฮงรัศมี หัวหน้ากลุ่มอายุรศาสตร์หัวใจ สถาบันโรคทรวงอก แนะนำให้ผู้สูงอายุ โดยเฉพาะที่เป็นโรคหัวใจห้ามชมการถ่ายทอดสด แต่ควรจะรู้ผลก่อน แล้วค่อยไปดูย้อนหลังจะปลอดภัยมากกว่า เนื่องจากจะมีภาวะเสี่ยงต่อการช็อกได้

นอกจากนี้บรรดาที่เป็นแฟนกีฬาทุกเพศทุกวัย ก็ควรหมั่นดูแลสุขภาพของหัวใจไว้บ้าง เพราะการชมกีฬาอย่างตื่นเต้นและลุ้นระทึก สามารถทำให้หัวใจหยุดเต้นได้ ดังนั้นเพื่อให้การชมกีฬาเป็นไปด้วยความสนุกและไม่ส่งผลเสียต่อร่างกาย การหมั่นดูแลสุขภาพตัวเองให้แข็งแรงอยู่เสมอจึงเป็นเรื่องที่จำเป็นและสำคัญมาก

ข่าวที่เกี่ยวข้อง