ความอุดมสมบูรณ์ของน้ำและดิน ทำให้พื้นที่ อ.พบพระ จ.ตาก สามารถปลูกพืชผักหมุนเวียนได้ตลอดปีและกลายเป็นพื้นที่ปลูกพืชผัก ข้าวโพด รวมทั้งกุหลาบ และถือเป็นแหล่งปลูกมันฝรั่งแหล่งใหญ่ ซึ่งป้อนสู่อุตสาหกรรมอาหารให้กับบริษัทต่างชาติแห่งหนึ่ง แต่กลับต้องเจอปัญหามันฝรั่งไม่ได้คุณภาพ ส่งผลทำให้ไม่สามารถขายผลผลิตได้ และประสบปัญหาขาดทุน
นายช้าง แซ่วาง เป็นหนึ่งในเกษตรกร 100 ราย ที่ปลูกมันฝรั่ง และได้รับผลกระทบในฤดูกาลผลิต 2558 เนื่องจากหัวพันธุ์ที่ซื้อจากโบรกเกอร์ ที่เขาเป็นลูกสมาชิกเป็นโรคเหี่ยวแห้งตาย ทำให้ขาดทุน จึงต้องประท้วงให้บริษัทต่างชาติชดใช้ค่าเสียหาย แต่ล่าสุดบริษัทช่วยเหลือเพียงลดราคาหัวพันธุ์ให้เท่านั้น ส่วนปุ๋ยและยาฆ่าแมลงทางโบรกเกอร์ให้ผ่อนส่ง
อย่างไรก็ตามที่ผ่านมาฝ่ายปกครอง อ.พบพระ จ.ตาก ได้เรียกโบรกเกอร์และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องประชุมร่วมซึ่งข้อสรุป คือในฤดูกาลผลิตใหม่โบรกเกอร์จะต้องทำสัญญาประกันราคาและประกันความช่วยเหลือ จากเดิมที่ไม่เคยทำสัญญาประกันความเสียหายและราคาผลผลิต
นอกจากนี้ อดีตพ่อค้าขายปุ๋ยรายใหญ่ ให้ข้อมูลว่า พื้นที่ อ.พบพระ แตกต่างจากพื้นที่อื่นคือ บริษัทจะรับซื้อผ่านโบรกเกอร์ ทั้งนี้โปรกเกอร์จะเป็นคนหาลูกสมาชิกโดยไม่มีการทำสัญญาใดๆเพื่อตัดความรับผิดชอบของบริษัท โดยโบรกเกอร์จะได้กำไรจากส่วนต่างผลผลิตกิโลกรัมละ 1-2 บาท และได้กำไรจากการจำหน่ายปุ๋ย กระสอบละ 40-100 บาท ยาฆ่าแมลง ได้กำไรเท่าตัว ทั้งนี้โบรกเกอร์จะไม่ใช่คนในพื้นที่แต่คือ อดีตพนักงานส่งเสริมของบริษัทนั่นเอง
สำหรับพื้นที่ อ.พบพระ พบว่ามีโปรกเกอร์กว่า 10 ราย มันฝรั่งส่วนใหญ่จะเริ่มปลูกช่วงปลายปี ต้นทุนการผลิต ตั้งแต่หัวพันธุ์ แรงงาน ค่าเช่าที่ ยาฆ่าแมลง ปุ๋ยเคมี ประมาณ 20,000 บาทต่อไร่