วันนี้ (3 ก.พ.2560) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนเข้ารับฟังการไต่สวนพยานฝ่ายจำเลย ในคดีละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ ไม่ระงับยับยั้งโครงการรับจำนำข้าว เป็นเหตุในรัฐเสียหาย
น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ได้ทำคำชี้แจงเพิ่มเติมต่อศาลปกครองกลางแล้ว หลังยื่นอุทธรณ์คำสั่งทางปกครองให้ชดใช้ค่าเสียหายในโครงการรับจำนำข้าว โดยรายละเอีด คือขอให้ศาลทุเลาคำสั่งทางปกครอง เพราะขณะนี้คดียังอยู่ในการพิจารณาของศาล ทั้งอาญาและคดีทางปกครองง ดังนั้น หากถูกกรมบังคับคดีดำเนินการยึดทรัพย์ จะทำให้ได้รับความลำบาก ขณะเดียวกัน ศาลได้ให้ฝ่ายผู้ถูกฟ้องทำคำชี้แจงเพิ่มเติมต่อศาลภายใน 30 วัน หลังการไต่สวนนัดแรก คือเมื่อ 26 มกราคมที่ผ่านมา โดยหลังจากนี้ต้องรอฟังคำสั่งจากศาลปกครองต่อไป สำหรับการพิจารณาของศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองนั้น ก็ต่อสู้คดีอย่างเต็มที่ ในการนัดสืบพยานแต่ละครั้ง
นอกจากนี้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ระบุว่า ยังไม่ได้รับการประสานจากคณะกรรมการบริหารราชการแผ่นดินตามกรอบการปฏิรูปประเทศ ยุทธศาสตร์ชาติและการสร้างความสามัคคีปรองดอง (ป.ย.ป.) เห็นเพียงผ่านสื่อมวลชนเท่านั้น
ส่วนกรณีที่วอชิงตัน โพสต์ระบุว่า ไทยเสี่ยงต่อการเกิดรัฐประหารอันดับ 2 ของโลกนั้น ทางรัฐบาลต้องให้ความมั่นใจว่าจะไม่เกิดซ้ำอีก และต้องให้การปรองดองทำให้ทุกคนมีความสบายใจ ไม่ควรเกิดรัฐประหารขึ้นอีก เพราะโลกเปลี่ยนแปลงไปแล้ว ขอให้การรัฐประหารในรัฐบาลของตนเองเป็นครั้งสุดท้าย สำหรับข่าวการปองร้ายบุคคลในรัฐบาลนั้น น.ส.ยิ่งลักษณ์มองว่าไม่อยากให้นำเอาข่าวในโซเชียลมีเดียมาทำให้เกิดความตื่นตระหนกและเชื่อว่าฝ่ายความมั่นคงดูแลอยู่แล้ว สำหรับพยานในวันนี้ มีเพียงปากเดียว คือนายกิตติรัตน์ ณ ระนอง อดีตรองนายกรัฐมนตรี ด้านเศรษฐกิจ โดยอัยการโจทก์เตรียมคำถามไว้กว่า 1,000 คำถาม