วันนี้ (28 ก.พ.2560) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ปฏิบัติการเคลื่อนย้ายหมีควายน้ำหนักกว่า 80 กิโลกรัม โดยใช้เฮลิคอปเตอร์ เพื่อกลับไปปล่อยคืนสู่ป่าลึกในเขตอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ของกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช เมื่อวันที่ 12 กุมภาพันธ์ แต่ขึ้นบินไม่นานนัก หมีกลับตกลงมาตาย
นายธนาธิป ไชยยศ อาสาสมัครช่วยเหลือสัตว์ป่าที่ร่วมเดินทางไปกับเจ้าหน้าที่ เปิดเผยว่า ขณะเฮลิคอปเตอร์ขึ้นบินไม่ถึง 2 นาที เกิดการส่ายเอียง ทำให้หมีควายที่อยู่ในตาข่ายแขวนใต้ท้องเฮลิคอปเตอร์เกิดเหวี่ยงอย่างรุนแรง นักบินพยายามควบคุมเครื่อง และประคองการทรงตัวอยู่นาน โดยลดระดับการบิน จากนั้นหมีก็ตกจากเฮลิคอปเตอร์

นายวิรัช จตุพนาพร ผู้อำนวยการสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 1 ปราจีนบุรี กล่าวว่า คาดว่าสาเหตุเกิดจากสภาพอากาศ เนื่องจากวันดังกล่าวทัศนวิสัยไม่ดี ทำให้ตะขอใต้ท้องเครื่องหลุด ตามข้อมูลที่ได้รับรายงานจากทางช่างเทคนิค สำหรับวิธีการเคลื่อนย้ายหมีควายครั้งนี้ เจ้าหน้าที่ใช้วิธีการวางยาสลบ จะออกฤทธิ์กว่า 2 ชั่วโมง แล้วนำหมีใส่ตาข่าย และใช้ตะขอเกี่ยวใต้ท้องเฮลิคอปเตอร์ ก่อนจะเคลื่อนย้าย
ผู้อำนวยการสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 1 ปราจีนบุรี ยังระบุว่า วิธีการนี้ เจ้าหน้าที่อุทยานฯ เขาใหญ่ ใช้เคลื่อนย้ายสัตว์ป่าดุร้ายหลายครั้งแต่ไม่เกิดปัญหา และเป็นวิธีที่ใช้กันในต่างประเทศ ส่วนซากหมีควายเจ้าหน้าที่ใช้วิธีเผาทำลาย ป้องกันเชื้อโรค เนื่องจากจุดที่ตกลงไปเป็นป่าลึก เจ้าหน้าที่ต้องเดินติดตามสัญญาณดาวเทียวติดตั้งไว้ที่ตัวหมี ใช้เวลาไป-กลับ ถึง 4 วัน จึงไม่สะดวกในการขนย้าย
ด้านนายธัญญา เนติธรรมกุล อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช กล่าวว่า ได้มีการตั้งคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริงหาสาเหตุการตกเฮลิคอปเตอร์ตายของหมีควายแล้ว โดยให้รายงานผลภายใน 30 วัน ยืนยันว่าเพิ่งได้รับรายงานจากเจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่เมื่อ 2 วันที่แล้ว โดยจากการตรวจสอบข้อเท็จจริง ในเบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้ทำตามหลักวิชาการ เริ่มตั้งแต่การตรวจสุขภาพหมีควายที่มีสุขภาพแข็งแรง จึงวางยาสลบแล้วเริ่มขนย้ายหมีเพื่อนำไปปล่อยคืนสู่ป่า แต่หมีควายมีน้ำหนักค่อนข้างมาก อาจเป็นไปได้ว่าหมีควายฟื้นขึ้น ระหว่างขนย้ายจนตกลงมาตาย จึงเป็นอุบัติเหตุ ขณะนี้อยู่ระหว่างการตรวจสอบข้อเท็จลงลึกในรายละเอียดอีกครั้ง
นายธัญญา กล่าวว่า ได้กำชับให้อุทยานแห่งชาติทั้งหมดใช้กรณีนี้เป็นบทเรียนสำคัญในการขนย้ายสัตว์ป่าและใช้เป็นแนวคิดเกี่ยวกับแผนการขนย้ายสัตว์ป่าในอนาคต โดยที่ผ่านมา อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่เคยใช้เฮลิคอปเตอร์ขนย้ายสัตว์ป่ามา 1 ครั้ง ที่เป็นไปด้วยดี จากปกติ กรมอุทยานฯ จะขนย้ายสัตว์ป่าด้วยรถยนต์ หรือปล่อยตามแนวชายป่าใกล้กับพื้นที่อุทยานแห่งชาติทั่วประเทศ เช่น ช้าง เสือ เก้ง กวาง นก