ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ผู้โดยสารที่ท่าอากาศยานนานาชาติจอห์นเอฟ เคนเนดี้ ในนครนิวยอร์ก ประเทศสหรัฐอเมริกา แสดงความคิดเห็นที่แตกต่างกันไปหลังทางการสหรัฐฯ และอังกฤษ ออกมาตรการคุ้มเข้มความปลอดภัยห้ามผู้โดยสาร ที่เดินทางมาจากสนามบินของชาติมุสลิมในภูมิภาคตะวันออกกลางและแอฟริกาเหนือ นำคอมพิวเตอร์แล็ปท็อป แท็บเล็ต เครื่องเล่นดีวีดีแบบพกพา รวมทั้งอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ที่มีขนาดใหญ่กว่าโทรศัพท์มือถือ ขึ้นมาบนห้องโดยสารของเครื่องบิน และจะต้องนำอุปกรณ์ดังกล่าวไปไว้ในกระเป๋าสัมภาระที่ผ่านการตรวจเช็คและโหลดเก็บที่ใต้ท้องเครื่องบิน ยกเว้นโทรศัพท์มือถือ และสมาร์ทโฟนที่ยังคงอนุญาตให้นำติดตัวขึ้นเครื่องได้
โดยผู้โดยสารบางคนแสดงความเคลือบแคลงสงสัยในมาตรการดังกล่าว ขณะที่บางคนบอกว่ารู้สึกปลอดภัยมากขึ้น แต่ผู้โดยสารที่สนามบินที่ได้รับผลกระทบจากมาตรการนี้ต่างแสดงความไม่พอใจ
คำสั่งห้ามของสหรัฐฯและอังกฤษ ในครั้งนี้ครอบคลุมสนามบิน 10 แห่งใน 8 ประเทศได้แก่ สนามบินนานาชาติในกรุงไคโรของอียิปต์ กรุงอัมมานของจอร์แดน นครอิสตันบูลของตุรกี กรุงคูเวต ซิตี้ของคูเวต เมืองคาซาบลังกาของโมร็อกโก กรุงโดฮาของกาตาร์ กรุงรียาดและเมืองเจดดาห์ของซาอุดิอาระเบีย รวมทั้งนครดูไบและกรุงอาบู ดาบีของสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์