วันนี้ (8 มิ.ย.2560) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันที่ 8 มิ.ย.ของทุกปีเป็นวันมหาสมุทรโลก หรือวันทะเลโลก ศูนย์วิจัยอ่าวไทยฝั่งตะวันออก ได้รายงานว่า พบซากเต่าตนุ ตัวเมียตายในทะเลจ.ระยอง
นายศุภวัตร กาญจน์อติเรกลาภ ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยและพัฒนาทรัพยากรทางทะเลและชาย ฝั่งอ่าวไทยฝั่งตะวันออก ทช. บอกว่า ได้รับแจ้งว่าพบเต่าทะเลเกยตื้น จากเครือข่ายช่วยชีวิตสัตว์ทะเลหายากจังหวัดระยอง จึงได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่กลุ่มสัตว์ทะเลหายากเข้าตรวจสอบพบว่าเป็นเต่าตนุวัยเจริญพันธุ์ ตัวเมีย ขนาด 93 x 91 เซนติเมตร จากการชันสูตรพบหัวใจห้องล่างมีสีซีด ม้ามซีด ไตซีด ปอดมีการคั่งเลือดและปอดอักเสบ นอกจากนี้ยังพบการสร้างไข่จำนวนมาก และพบการอักเสบและคั่งเลือด ซึ่งคาดว่าจะวางไข่ในไม่ช้า
อีกทั้งระบบทางเดินอาหารพบเศษพืชจำนวนมาก และขยะทะเลประเภทเชือก จึงสามารถสรุปสาเหตุการตายได้จากการติดเชื้อไวรัส หรือการอักเสบอย่างรุนแรงทั่วร่างกาย เจ้าหน้าที่ศูนย์วิจัยฯจึงประสานกับอาสาสมัครป้องกันภัยฝ่ายพลเรือน เทศบาลสุนทรภู่ประจำศูนย์ชายหาดแหลมแม่พิมพ์ ป้องกันเทศบาลสุนทรภู่ และกู้ภัยพุทธศาสตร์สงเคราะห์ในการจัดการฝังกลบซาก และการเก็บตัวอย่างขยะทะเลเพื่อศึกษาในอนาคตต่อไป
นายศุภวัตร บอกว่า สาเหตุของการเกยตื้นสำหรับเต่าทะเลส่วนใหญ่ ประมาณร้อยละ 74-89 เกิดจากเครื่องมือประมง โดยเฉพาะเครื่องมือประมงชายฝั่ง ได้แก่ อวนลอย ตลอดจนกิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับการประมง
นอกจากนี้ ขยะทะเลนับเป็นสาเหตุของการเกยตื้นซึ่งมีแนวโน้มของปัญหาเพิ่มขึ้นทุกปี ค่าเฉลี่ยของเต่าทะเลที่กลืนขยะ และเข้าไปสะสมอยู่ในระบบทางเดินอาหารมีร้อยละ 2-3 แต่หากนับจำนวนของการเกยตื้นที่มีขยะทะเลเกี่ยวพันภายนอก โดยเฉพาะขยะจำพวกอวน ซึ่งพบมากในเต่าทะเลจะมีเปอร์เซ็นต์การเกยตื้นจากสาเหตุขยะสูงถึงร้อยละ 20-40