กต.สั่งสถานทูตไทยในปากีสถานดูแล 5 นศ.
นายเสข วรรณเมธี โฆษกกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวถึงกรณีนักศึกษาไทย 5 คน ถูกเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยท่าอากาศยานเมืองละฮอร์ของปากีสถานว่า กระทรวงการต่างประเทศได้สั่งการให้สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงอิสลามาบัด ประสานงานอย่างใกล้ชิดกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องของปากีสถานทันทีที่ได้รับรายงานดังกล่าว ซึ่งสถานเอกอัครราชทูตไทยในปากีสถานได้ดำเนินการเพื่อขอเข้าเยี่ยมให้ความช่วยเหลือ รวมทั้งขอให้นักศึกษาไทยทั้ง 5 คนได้รับการปฏิบัติอย่างเป็นธรรมตามกฎหมายและระเบียบของทางการปากีสถาน
นายศราวุฒิ อารีย์ ผู้อำนวยการศูนย์มุสลิมศึกษาจากจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ให้ข้อมูลว่า นักศึกษาไทยมุสลิมที่ไปเรียนศาสนาส่วนใหญ่อยู่ในตะวันออกกลาง อย่างซาอุดิอาระเบียประมาณ 100 คน อยู่ที่อียิปต์ประมาณ 2,000 คน ส่วนเอเชียใต้อย่างปากีสถานคาดว่าจะมีประมาณ 50 คน ที่เลือกไปส่วนหนึ่งเชื่อว่าเพราะค่าใช้จ่ายถูกกว่าประเทศอื่น
หลังเหตุการณ์ 911 รัฐบาลปากีสถานไม่อยากจะให้นักศึกษาจากต่างชาติเข้าไปเรียน เพราะเกรงว่าจะไปรับอุดมการณ์จากกลุ่มติดอาวุธ เมื่อเทียบกับซาอุดิอาระเบียและอียิปต์แล้ว ประเด็นเรื่องความมั่นคงและความรุนแรงไม่ได้ถูกพูดถึงมากเท่ากับ ปากีสถาน ส่วนข้อสังเกตว่าทำไมนักศึกษา 1 ใน 5 คนพยายามนำปืนขึ้นเครื่อง นายศราวุฒิให้ข้อมูลประกอบว่าที่ปากีสถานสามารถหาซื้อปืนได้ง่ายและมีราคาถูก
ทั้งนี้ ฝ่ายความมั่นคงมีข้อมูลของทั้ง 5 คน เป็นเยาวชน 4 คนและอีก 1 คนอายุ 26 ปี ซึ่งมีภูมิลำเนาอยู่ที่ จ.ปัตตานี จ.ตรัง จ.กระบี่ จ.สงขลา และ จ.ฉะเชิงเทรา ทั้งหมดไปเรียนโรงเรียนศาสนาทางตอนเหนือของปากีสถาน โดยฝ่ายความมั่นคงตรวจสอบพบว่าไม่อยู่ในสาระบบผู้ก่อความไม่สงบและไม่พบพฤติกรรมที่น่าสงสัย ซึ่งตรงกับที่ครอบครัวของนักศึกษา 2 ใน 5 คน ยืนยันกับไทยพีบีเอสว่าลูกชายไม่เกี่ยวข้องกับความรุนแรงใดๆ