วันนี้ (4 ก.ค.2560) พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้า คสช.เปิดเผยว่า ที่ประชุม คสช.ได้เห็นชอบออกคำสั่งตามมาตรา 44 ชะลอการบังคับใช้ พ.ร.ก.การบริหารจัดการการทำงานแรงงานต่างด้าวปี 2560 ใน 4 มาตรา ออกไปอีก 6 เดือน คือ มาตรา 101, 102, 119 และ 122 ที่เกี่ยวข้องกับบทลงโทษที่รุนแรง เพื่อให้แรงงานทั้งที่ถูกกฎหมายและผิดกฎหมาย ได้มีเวลาปรับปรุงเรื่องการจัดทำเอกสารให้ถูกต้อง เพราะหากไม่ดำเนินการแก้ไขก็จะมีผลกระทบต่อพันธสัญญาระหว่างประเทศ และทำให้ต่างประเทศไม่รับซื้อสินค้าจากไทย พร้อมทั้งมอบหมายให้รองนายกรัฐมนตรี ฝ่ายกฎหมาย ไปดูการจดทะเบียนแรงงานที่จะต้องรวดเร็ว และเป็นไปตามมาตรฐาน
นอกจากนี้ ยังขอความร่วมมือผู้ประกอบการและลูกจ้างทำตามขั้นตอนกฎหมาย เพื่อประโยชน์ของประเทศ พร้อมยืนยันระหว่างบังคับใช้ตามมาตรา 44 จะต้องไม่มีการเรียกรับผลประโยชน์ใดๆ ส่วนกรณีที่ทางการกัมพูชาปิดชายแดนบริเวณบันเตียเมียนเจยในช่วงนี้ นายกรัฐมนตรี ระบุว่า เป็นการปิดเพื่อตรวจสอบ โดยฝ่ายความมั่นคงของทั้ง 2 ฝ่ายจะมีการหารือร่วมกัน
ขณะที่ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงการปิดชายแดนบริเวณบันเตียเมียนเจยว่า เป็นการปิดช่องทางทางธรรมชาติ ถือเป็นเรื่องดีที่จะช่วยป้องกันการลักลอบสินค้าหนีภาษี และไม่ใช่เป็นผลมาจาก การบังคับใช้กฎหมายแรงงานต่างด้าว
หลังการประชุม ครม. นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี พร้อมด้วยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน และอธิบดีกรมการจัดหางาน แถลงย้ำถึงความจำเป็นในการออกพระราชกำหนด เพื่อประกาศเจตนารมณ์ว่าไทยยังคงต่อต้านการค้ามนุษย์ ซึ่งต้องมีการจัดระเบียบแรงงานข้ามชาติให้เป็นไปตามสากล ส่วนที่ต้องชะลอการบังคับใช้ถึง 180 วัน เพื่อให้แรงงานสามารถหมุนเวียนไปจดทะเบียนให้ถูกต้องตามกฎหมาย และให้กระทรวงแรงงานและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ทบทวนว่ามีความจำเป็นต้องปรับปรุงอัตราโทษที่กำหนดไว้ในกฎหมายหรือไม่