วันนี้ (8 ก.ค.2560) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นักท่องเที่ยวชาวมาเลเซียบางคน แสดงให้เห็นวิธีการนำเงินแนบไปกับหนังสือเดินทาง เพื่อประทับตราเดินทางเข้าประเทศ บริเวณด่านตรวจคนเข้าเมือง อำเภอสะเดา จังหวัดสงขลา
นักท่องเที่ยว กล่าวว่า เงินจำนวนนี้ต้องส่งให้ เพราะกลายเป็นธรรมเนียมปฏิบัติที่ต้องจ่าย คนละคน 2 ริงกิต หรือ 20 บาทไทย
ข้อมูลจากนักท่องเที่ยวได้รับคำกล่าวอ้างว่า เป็นเงินอำนวยความสะดวกในการประทับตราหนังสือเดินทาง หรือเป็นค่าล่วงเวลาการทำงาน และหากไม่จ่ายจะถูกเรียกเก็บ และไม่ประทับตราให้
นายวิทยา ลิ่ม มัคคุเทศก์จังหวัดสงขลา เปิดเผยว่า ระบบเรียกเก็บเงินด่านพรมแดนอำเภอสะเดาเกิดขึ้นหลายสิบปี และเป็นที่รับทราบของคนทั่วไป แม้พยายามคัดค้านและเรียกร้องให้แก้ไขปัญหาแต่ไม่เป็นผล เพราะทำลายการท่องเที่ยว หลังนักท่องเที่ยวร้องเรียนว่าถูกข่มขู่ไม่ให้เข้าประเทศ หากไม่จ่ายเงิน บางคนให้ด้วยความไม่เต็มใจ แต่การต่อสู้ไม่เป็นผล จึงต้องการให้สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง ยกเลิกระบบที่เรียกว่าเงินสินน้ำใจ
ด้านตำรวจตรวจคนเข้าเมือง เปิดเผยว่า ขณะนี้กองบังคับการตำรวจตรวจคนเข้าเมือง 6 เตรียมพิจารณาโยกย้ายตำรวจตรวจคนเข้าเมืองประจำด่านอำเภอสะเดาทั้งหมด เพื่อล้างระบบการทำงานใหม่ และห้ามเรียกเก็บเงินสินน้ำใจ หากนักท่องเที่ยวถ่ายรูปขณะข่มขู่เรียกเก็บเงิน มีโทษถึงไล่ออกจากราชการ
ทั้งนี้ เมื่อต้นสัปดาห์ที่ผ่านมา ไทยพีบีเอสเสนอเนื้อหาให้เห็นการลักลอบข้ามแดนผ่านด่านตรวจคนเข้าเมือง โดยใช้วิธีการลักลอบเข้าไปทำงานผ่านด่านตรวจ ที่เรียกการใช้บริการจากคนบางกลุ่ม เพื่อนำพาผ่านจุดตรวจได้อย่างง่ายดาย หรือที่เรียกว่าการอุ้มข้ามแดน พร้อมยังเปิดเผยให้เห็นขั้นตอนการผ่านแดน ที่ผู้ผ่านจุดตรวจจะแนบเงินไปกับเอกสารพาสปอร์ต ก่อนยื่นให้เจ้าหน้าที่ตรวจเอกสาร และประทับตราการเดินทาง