เมื่อวานนี้ (8 ต.ค.2560) นายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ เปิดเผยว่า ขณะนี้ พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญ ว่าด้วยพรรคการเมือง พ.ศ.2560 มีผลบังคับใช้แล้ว หลังประกาศในราชกิจจานุเบกษา และมีสิ่งที่พรรคการเมืองต้องปฏิบัติตาม โดยกำหนดกรอบเวลาไว้ชัดเจน เช่น การจัดทำข้อบังคับพรรค การยืนยันสมาชิกพรรค การจัดทำไพรมารี่โหวต แต่ขณะนี้ยังคงมีคำสั่งคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ห้ามพรรคการเมืองทำกิจกรรมทางการเมือง บังคับใช้อยู่ จึงทำให้เกิดปัญหาลักลั่นในการใช้กฎหมาย
นายนิพิฏฐ์ กล่าวว่า เชื่อว่าฝ่ายกฎหมาย คสช.คงตระหนักถึงปัญหาที่อาจจะเกิดขึ้น ซึ่งน่าจะแก้ไขได้ด้วยการเปิดทางให้พรรคการเมืองทำกิจกรรมทางการเมืองได้เท่ากฎหมายพรรคการเมืองบัญญัติไว้
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจาก พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ยืนยันกับประธานาธิบดีสหรัฐฯ ว่าจะมีการเลือกตั้งในปี 2561 ระหว่างการเดินทางเยือนสหรัฐฯ อย่างเป็นทางการ ทำให้แกนนำพรรคเพื่อไทย ออกมาเรียกร้องให้นายกรัฐมนตรีประกาศวันเลือกตั้งที่ชัดเจนว่าจะเกิดขึ้นในปี 2561 หรือเลื่อนออกไปอีก
ขณะที่นายสุริยะใส กตะศิลา ผู้อำนวยการสถาบันปฏิรูปประเทศไทย กล่าวว่า แม้พรรคการเมืองจะมีสิทธิเรียกร้องให้นายกรัฐมนตรีและ คสช.กำหนดวันเลือกตั้งให้ชัดเจน แต่คงเป็นเรื่องยาก เพราะต้องรอความชัดเจนในการตราร่าง พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญ ที่เกี่ยวข้องกับการเลือกตั้งอีก 2 ฉบับ คือร่าง พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญที่ว่าด้วยการได้มาซึ่ง ส.ว.และร่าง พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญที่ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส.ซึ่งมีเนื้อหา และหลักการใหม่ อันอาจจะนำมา ซึ่งข้อถกเถียงและทำให้การตรากฎหมายทั้ง 2 ฉบับต้องล่าช้าออกไป
นายสุริยะใส กล่าวว่า ยังไม่มีสัญญาณที่จะบ่งบอกว่าการเลือกตั้งจะไม่เป็นไปตามโรดแมป ระหว่างนี้จึงเป็นโอกาสที่แต่ละพรรคจะวางกรอบในการปฏิรูปพรรคของตัวเอง ภายใต้กรอบกติกาใหม่ เพราะแม้จะยังคงมีคำสั่ง คสช.ห้ามพรรคทำกิจกรรมทางการเมือง แต่ในข้อเท็จจริงทราบกันดีว่าแต่ละพรรคมีการพบปะพูดคุยกันอยู่ตลอดเวลา
พล.ต.ปิยพงศ์ กลิ่นพันธุ์ ทีมโฆษก คสช.กล่าวว่า การเลือกตั้งยังคงเป็นไปตามโรดแมป ซึ่งเริ่มตั้งแต่การมีรัฐธรรรมนูญ จากนั้นก็ต้องมีกฎหมายลูก เมื่อกฎหมายลูกเสร็จครบทุกฉบับก็ต้องบวกเวลาไปอีก 150 วัน ตามที่รัฐธรรมนูญกำหนดไว้ ไม่ใช่การขยับวันเลือกตั้งออกไป แต่ทุกอย่างเป็นไปตามกรอบกฎหมาย ซึ่งที่ผ่านมา นายมีชัย ฤชุพันธุ์ ประธานคณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญชี้แจงไปหมดแล้ว จึงไม่เข้าใจว่าทำไมพรรคการเมืองยังนำประเด็นนี้มาเป็นประเด็นอีก