ค้นหา
ทีวีออนไลน์
เว็บไซต์ในเครือ
เว็บไซต์บริการ

ผู้ประกอบการเรียกร้องยกเลิกบังคับติดตั้งอุปกรณ์ในรถแท็กซี่

เศรษฐกิจ
29 พ.ย. 60
11:24
1,710
Logo Thai PBS
ผู้ประกอบการเรียกร้องยกเลิกบังคับติดตั้งอุปกรณ์ในรถแท็กซี่
ผู้ประกอบการแท็กซี่เรียกร้องให้กรมการขนส่งทางบกยกเลิกการบังคับติดตั้งอุปกรณ์ส่วนควบในรถแท็กซี่ตามโครงการแท็กซี่โอเค โดยอ้างว่าเงินไม่พอจะติดตั้งอุปกรณ์ทั้งหมดได้ เพราะแต่ละคันมีค่าใช้จ่ายสูงถึง 29,000 บาท ไม่นับรวมค่าบำรุงรักษารายปี

วันนี้ (29 พ.ย.2560) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กรมการขนส่งทางบกเริ่มต้นโครงการ TAXI OK และ TAXI VIP เพื่อแก้ไขปัญหาระบบการให้บริการของแท็กซี่ ตั้งแต่วันที่ 9 พฤศจิกายน 2560 โดยกฎกระทรวง ว่าด้วยรถยนต์รับจ้างบรรทุกคนโดยสารไม่เกิน 7 คน กำหนดให้รถแท็กซี่จดทะเบียนใหม่ทุกคัน ต้องมีความพร้อมและติดตั้งอุปกรณ์ส่วนควบตามที่กำหนดให้ครบถ้วน ประกอบด้วยการติดตั้งเครื่องบันทึกข้อมูลการเดินทางของรถ GPS Tracking พร้อมอุปกรณ์แสดงตัวผู้ขับรถ มาตรค่าโดยสาร ปุ่มฉุกเฉินสำหรับผู้โดยสาร อย่างน้อย 1 จุด ในตำแหน่งที่สามารถมองเห็นได้ และใช้งานสะดวก และกล้องบันทึกภาพภายในรถแบบ Snap Shot โดยอุปกรณ์ทั้งหมดต้องเชื่อมโยงและทำงานร่วมกันได้แบบ Real-time เพื่อส่งข้อมูลไปยังศูนย์บริการสื่อสารรถยนต์รับจ้างของผู้ประกอบการ เพื่อควบคุมคุณภาพและความปลอดภัยให้แก่ผู้ใช้บริการ และจัดส่งข้อมูลให้กรมการขนส่งทางบก

หลังดำเนินการมายังไม่ครบ 1 เดือน ตัวแทนจากสมาคมวิชาชีพผู้ขับขี่รถยนต์สาธารณะแท็กซี่ ได้ยื่นหนังสือเรียกร้องขอให้ยกเลิกกฎดังกล่าว พร้อมระบุข้อมูลว่า ขณะนี้แท็กซี่ส่วนบุคคลประมาณ 10,000 คัน ได้รับความเดือดร้อน ไม่สามารถนำรถมาจดทะเบียนกับกรมการขนส่งทางบกได้ เพราะไม่มีเงินเพียงพอที่จะนำรถไปติดตั้งอุปกรณ์

กลุ่มผู้เรียกร้อง ระบุว่า อุปกรณ์ตามที่กฎหมายกำหนด มีราคาแพงมาก เฉพาะอุปกรณ์มีค่าใช้จ่ายประมาณ 29,000 บาทต่อคัน ยังไม่รวมค่าใช้จ่ายอินเทอร์เน็ตอีกเดือนละ 450-500 บาท และค่าบำรุงระบบรายปีอีก 3,600 บาท สวนทางกับรายได้แท็กซี่ที่ลดลง หากต้องรับภาระเพิ่มนอกเหนือไปจากค่าผ่อนรถ ก็จะกระทบกับความเป็นอยู่ของครอบครัว ซึ่งมีรายได้น้อยอยู่แล้ว จึงขอให้ยกเลิกกฎกระทรวงดังกล่าว

ทั้งนี้ หลังรับหนังสือ กระทรวงคมนาคมได้สั่งให้กรมการขนส่งทางบกไปศึกษาข้อดีข้อเสียของกฎกระทรวงและแนวทางแก้ปัญหา โดยให้นำกลับมาเสนอในสัปดาห์หน้า เบื้องต้น จะต้องใช้เวลาในการพิจารณาด้วยความรอบคอบ เนื่องจากข้อกำหนดดังกล่าวได้ออกเป็นกฎหมายบังคับใช้ไปแล้ว

 

 

 

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง