วันนี้ (1 ธ.ค.2560) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่จังหวัดภาคใต้ยังคงวิกฤต ปริมาณน้ำจากหลายอำเภอในจังหวัดสงขลา พัทลุง และนครศรีธรรมราช ไหลมารวมบริเวณทะเลสาบสงขลา ก่อนลงสู่ทะเลทำให้เกือบทุกพื้นที่ มีน้ำท่วมสูง ส่วนอำเภอเทพา สะบ้าย้อย และนาทวี จ.สงขลา ขณะนี้ น้ำได้ไหลเข้าท่วมเขตเมืองแล้ว
ขณะที่ยังพบว่า คลื่นลมที่รุนแรง ได้ซัดกระแทกแนวหินกันคลื่นบริเวณบ้านขนาบนาค อ.ปากพนัง จังหวัดนครศรีธรรมราช ทำให้แนวกั้นคลื่นบางจุดพังทลายลงทันที ขณะเดียวกันในบางช่วงที่คลื่นสูง ได้ทะลักข้ามฝั่งมายังบ้านเรือนของชาวบ้านโดยเฉพาะในช่วงเช้าและเย็นน้ำทะเลที่หนุนสูง ทำให้เจ้าของบ้านบางหลังต้องอพยพไปนอนบ้านญาติ เพราะไม่มั่นใจในความปลอดภัย เพราะนอกจากจะมีคลื่มลมแล้ว ฝนที่ตกสะสมอาจทำให้สถานการณ์เลวร้ายลงไปอีก เช่นเดียวกับพื้นที่ริมทะเลในเขตรอยต่อจังหวัดสงขลา จนถึงจังหวัดนครศรีธรรมราชเกือบทุกแห่งที่เผชิญกับคลื่นลมสูง

"สงขลา" น้ำท่วม 16 อำเภอยังวิกฤต
ส่วนที่ จ.สงขลา หลายอำเภอกำลังเผชิญกับน้ำท่วมสูง โดยเฉพาะอ.นาทวี น้ำท่วมได้ไหลเข้าท่วมในตัวเมืองและเส้นทางสายหลักระหว่างอำเภอ และชายแดนไทยมาเลเซีย
โดยเฉพาะในเส้นทางนาทวี-ลำไพล และนาทวี-ด่านประกอบ ที่ถูกน้ำท่วมสูง ทำให้การสัญจรไปมายากลำบากโดยเฉพาะรถเล็ก ที่อยู่ในภาวะเสี่ยงอันตรายเพราะน้ำไหลเชี่ยว และมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้นเรื่อยๆซึ่งชุมชนที่ได้รับผลกระทบน้ำท่วมหนักที่สุด คือ ชุมชนหน้าค่าย น้ำได้ไหลเข้าท่วมบ้านเรือนประชาชนแล้วกว่า 100 ครัวเรือน
เช่นเดียวกับที่ อ.สิงหนคร ชาวบ้านหมู่ 5 และ หมู่ 6 ตำบลปากรอ เดือดร้อนอย่างหนัก เพราะน้ำที่ท่วมสูงเกือบ 1 เมตรและกำลังเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง เพราะน้ำจำนวนมากจากหลายอำเภอ รวมถึงพื้นที่จังหวัดพัทลุงและนครศรีธรรมราช ได้ไหลระบายลงสู่งทะเลสาบสงขลา ทำให้ระดับน้ำเพิ่มสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว ชาวบ้านหลายคนจึงกังวลว่า สถานการณ์น้ำท่วมอาจจะเลวร้ายเหมือน 4 ปีก่อน
นางบุญร่วม บัวงาม กล่าวว่า น้ำมาเร็วก็ค่อยขนย้ายข้าวของที่สำคัญ เครื่องใช้ไฟฟ้าไปฝากไว้บ้านคนอื่นก่อน ไม่แตกต่างไปจากชาวประมงผู้เลี้ยงปลากระพงในกระชัง ที่บ้านแหลม ต.ปากรอ อ.สิงหนคร ซึ่งรองรับน้ำที่ระบายจากพื้นที่ตอนบน ทั้งจาก อ.สะเดา หาดใหญ่ คลองหอยโข่ง และบางกล่ำ

เทพา-นาทวี-สะบ้าย้อย ยังอ่วม
ขณะนี้น้ำจำนวนมากไหลทะลักลงมา ท่วมพื้นที่ ทำให้ปลากะพงขาวของชาวบ้านกว่า 100 กระชังหลุดออกจากกระชังเลี้ยงเกือบทั้งหมด ซึ่งสถานการณ์น้ำท่วมในจังหวัดสงขลา มีรายงานว่า ทั้ง 16 อำเภอได้รับผลกระทบ ทำให้ทางจังหวัดประกาศให้เป็นพื้นที่ภัยพิบัติฉุกเฉิน มีประชาชนกว่า 1 แสน 2 หมื่นคนได้รับความเดือดร้อน มีผู้เสียชีวิต 3 คน และมีผู้ที่ต้องอพยพ 85 ครัวเรือน โดยพื้นที่ที่สถานการณ์น่ากังวลมากที่สุด คือ อำเภอเทพานาทวี และสะบ้าย้อย
สถานการณ์ฝนตกหนักและน้ำท่วม ไม่เพียงแต่ส่งผลกระทบกับคนเท่านั้น แต่ฝนที่ตกติดต่อกันหลายวัน ทำให้สัตว์ในสวนสัตว์สงขลาได้รับผลกระทบ ทางสวนสัตว์สงขลา จึงมีความจำเป็นดูแลสุขภาพสัตว์อย่างใกล้ชิดเพื่อป้องกันไม่ให้สัตว์ป่วย โดยได้นำผ้าห่ม และติดไฟฟ้าบนกรง เพื่อให้ความอบอุ่นแก่สัตว์ หรือนำฟางแห้ง มาปูพื้น เพื่อให้สัตว์นอน ส่วนนกก็จะเครื่องเป่าผมมาเป่าให้แห้งเพื่อให้นกเกิดความอบอุ่น