กระทรวงการคลังจีน ออกมาตรการตั้งกำแพงภาษีสินค้านำเข้าจากประเทศสหรัฐอเมริกา จำนวน 128 รายการ เพื่อปกป้องผลประโยชน์ของประเทศและตอบโต้การประกาศมาตรการขึ้นภาษีนำเข้าเหล็กและอะลูมิเนียมของนายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ เมื่อช่วงต้นเดือนมีนาคม 2561
มาตรการดังกล่าว กำหนดให้จัดเก็บภาษีอะลูมิเนียมและเนื้อหมูแช่แข็ง เพิ่มขึ้นร้อยละ 25 และจัดเก็บภาษีอาหารประเภทผลไม้สด ผลไม้อบแห้งและไวน์ เพิ่มขึ้นร้อยละ 15 ทำให้มีสินค้านำเข้าที่ได้รับผลกระทบ คิดเป็นมูลค่ากว่า 3,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือประมาณ 93,000 ล้านบาท
นอกจากนี้ กระทรวงการคลังจีนยังออกแถลงการณ์แสดงจุดยืนสนับสนุนระบบการค้าในกรอบพหุภาคีกับนานาประเทศ พร้อมย้ำว่าการบังคับใช้มาตรการตั้งกำแพงภาษีสินค้านำเข้าจากสหรัฐฯ ทั้งหมด 128 รายการ เป็นไปตามระเบียบข้อบังคับขององค์การการค้าโลก (WTO)
ก่อนหน้านี้ ผู้นำสหรัฐฯ ลงนามบังคับใช้มาตรการขึ้นภาษีนำเข้าสินค้าจากจีน คิดเป็นมูลค่ารวม 60,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือประมาณ 1.86 ล้านล้านบาท และจำกัดการลงทุนของจีนบนแผ่นดินสหรัฐฯ เพื่อตอบโต้การละเมิดทรัพย์สินทางปัญญาของจีนเป็นเวลานานหลายปี