เมื่อวานนี้ (27 พ.ค.2561) นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ เปิดเผยภายหลังจากได้รับเลือกให้เป็นหัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ว่า ขอให้ทุกคนทุกฝ่ายมาร่วมกัน เพื่อเขียนประวัติศาสตร์การเมืองหน้าใหม่ และไม่ว่าอนาคตจะเป็นอย่างไร จะไม่ทรยศอุดมการณ์ประชาธิปไตย โดยพร้อมจะต่อต้านการสืบทอดอำนาจ เดินหน้างานการเมืองอย่างสร้างสรรค์
นายธนาธร กล่าวว่า พร้อมจะเผชิญหน้ากับสิ่งที่ไม่เป็นธรรม และเดินหน้าแก้ไขรัฐธรรมนูญปี 2560 รวมถึงการผลักดันให้มีกฎหมายนิรโทษกรรมคดีทางการเมืองในยุค คสช. และพรรคอนาคตใหม่ จะเสนอชื่อหัวหน้าพรรค เป็น 1 ใน 3 ชื่อ ผู้เหมาะสมเป็นนายกรัฐมนตรี คนที่ 30
นายปิยบุตร แสงกนกกุล ว่าที่เลขาธิการพรรคอนาคตใหม่ กล่าวถึงกรณีที่รัฐธรรมนูญปี 2560 ซึ่งมีกระบวนการที่แก้ไขยากว่า ทันทีที่พรรคอนาคตใหม่มีที่นั่งในสภาผู้แทนราษฎร ก็จะใช้โอกาสนี้ขับเคลื่อนแก้ไขรัฐธรรมนูญ โดยเฉพาะมาตราสุดท้าย 279 ที่เป็นการรับรองประกาศ คำสั่ง และการกระทำของ คสช.ให้ถูกต้องตามรัฐธรรมนูญ เพื่อฟื้นคืนระบบนิติรัฐให้เป็นปกติ และจะแก้ไขบทบัญญัติ เพื่อเปิดทางให้มีการร่างรัฐธรรมนูญใหม่ทั้งฉบับ
ส่วนประเด็นเกี่ยวกับการบังคับใช้ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 ว่าที่เลขาธิการพรรคอนาคตใหม่ กล่าวว่า จะไม่สนับสนุนให้ใช้ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 เพื่อกลั่นแกล้งทางการเมือง เนื่องจากจะทำให้สถาบันพระมหากษัตริย์มัวหมอง
สำหรับพรรคอนาคตใหม่ มีการประชุมและลงเลือกคณะผู้บริหารพรรค เมื่อวานนี้ ซึ่งนอกจากนายธนาธร จะได้รับเลือกเป็นหัวหน้าพรรคแล้ว ยังมีมติเลือก พล.ท.พงศกร รอดชมภู อดีตรองเลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ, นายสุรชัย ศรีสารคาม อดีตปลัดกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร และนายชำนาญ จันทร์เรือง อดีตประธานแอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนล ประเทศไทย เป็นรองหัวหน้าพรรค
ส่วนนายปิยบุตร แสงกนกกุล พรรคลงมติให้เป็นเลขาธิการพรรค ในขณะเดียวกัน พรรคอนาคตใหม่มีแนวทางที่จะระดมทุนจากประชาชนให้ได้ 350 ล้านบาท เพื่อสู้ศึกการเลือกตั้งครั้งนี้