ก่อนหน้านี้ตำรวจกองปราบเข้าไปตรวจกุฏิของ อดีตพระพรหมดิลก เจ้าอาวาสวัดสามพระยา แล้วพบโฉนดที่ดินกับสัญญาเช่าที่ของวัด ไทยพีบีเอส แกะรอยตรงนี้ต่อ ไปพบที่ดินของวัดอยู่ติดริมแม่น้ำเจ้าพระยาเป็นทำเลทองสำหรับทำธุรกิจ ที่ดินผืนนี้วัดให้ผู้หญิงคนนี้ที่เรียกกันว่า "ซ้อ" เช่าในราคา 30,000 บาทต่อเดือน แต่ "ซ้อ" ปล่อยเช่าต่อ 300,000 บาทต่อเดือนสูงกว่าถึง 10 เท่า ที่สำคัญ "ซ้อ" คนนี้คือคนสนิท ของอดีตเจ้าอาวาส และเข้าไปมีอำนาจบริหารจัดการในวัด
ที่ดินใต้เชิงสะพานสมเด็จพระปิ่นเกล้าเป็นพื้นที่ของวัดสามพระยา ซึ่งกลายเป็นทำเลทอง ที่หลายคนอยากจับจองเปิดธุรกิจค้าขาย แต่อดีตผู้เช่าหลายรายกลับสู้ราคาไม่ไหว เนื่องจากมีการปรับขึ้นราคาเช่าเรื่อยๆจาก 100,000 - 300,000 บาท ต่อเดือน
ปัจจุบันนี้เจ้าของภัตตาคารอาหารจีนเช่าที่ดินวัดสามพระยา แต่จากการตรวจสอบสัญญาเช่าของตำรวจกองปราบปราม กลับเป็นการเช่าผ่าน นางวิภาพร อุดมโชคปิติ โยมอุปฎฐากวัดสามพระยา ในราคา 300,000 บาท ต่อเดือน แต่ครอบครัวนี้เช่ามาจากวัดมาในราคาเพียง 30,000 ต่อเดือนเท่านั้น
ไทยพีบีเอส ยังได้ข้อมูลเชิงลึกจากประชาชนที่เคยติดต่อขอเช่าที่ดินผืนนี้ เพื่อค้าขาย เมื่อ 16 ปีก่อน เขาเล่าว่าเคยติดต่อขอเช่าที่ดินจากลูกศิษย์วัดโดยแนะนำให้คุยผ่านผู้ดูพื้นที่แต่เพราะเงื่อนไขของสัญญาทำให้เขาล้มเลิกความคิด
"หลังจากนั้นที่เราไปประสานเราไม่ประสบความสำเร็จนะครับ ที่จะไปต่อรองเขาลงมาได้ ลูกศิษย์ที่อ้างตัวว่าเป็นผู้ให้เช่าเขาก็ไม่ลดค่าเช่าให้กับเราเลย แล้วก็มีการเรียกล่วงหน้าถึง 3 เดือนนั้นหมายถึงเราต้องเอาเงินไปลงทุนเกือบประมาณ 1,000,000 บาท เมื่อ 10 กว่าปีที่แล้วก็ถือว่าเยอะพอสมควร เราคิดว่าไปไม่รอดจึงไม่ได้ทำต่อ เลยไม่ได้ทำสัญญากับเขา" ผู้ที่ได้รับผลกระทบค่าเช่าที่วัดสามพระยา กล่าว
ผู้ที่ได้รับผลกระทบค่าเช่าที่วัดสามพระยา เล่าว่า ร้านหมูกระทะ คือผู้เช่ารายแรกของวัดสามพระยา แม้จะขายดีแต่ก็สู้ราคาไม่ไหว เพราะผู้ที่อ้างว่าดูแลที่ดินมีการเรียกค่าเช่าเพิ่มสูงขึ้นถึง 350,000 บาทต่อเดือน
ผู้ที่ได้รับผลกระทบค่าเช่าที่วัดสามพระยา กล่าวเพิ่มเติมว่า หมูกะทะเป็นสัญญาแรกที่ทราบมาว่าทำสัญญาไม่ถึง 300,000 บาท แต่เป็นหลักแสน ซึ่งมีการขึ้นราคามาเรื่อยๆ เพราะร้านหมูกะทะกิจการดีขึ้นมีลูกค้าแน่นร้านทุกวัน ทุกปีก็เรียกเพิ่มขึ้น จนมาถึง 300,000 บาท และก็เรียกว่า 300,000 บาทด้วย แต่ทางโน้นเขาคำนวณสู้ไม่ไหว เราก็เหมือนกันเราก็เหมือนกัน ก็พยายามต่อรองให้เหลือ 300,000 บาท ก็ต่อรองไม่ได้
ไทยพีบีเอสไปสอบถาม ค่าเช่าพื้นที่วัดชุมชนหลังวัดสามพระยา ชาวบ้านบอกว่า ค่าเช่ามีราคาตั้งแต่ 100 - 1,000 บาท ตามขนาดพื้นที่ใช้สอยไม่ได้สูงมากตามที่เป็นข่าว เนื่องจากนางวิภาพร หรือ "ซ้อ" โยมอุปัฏฐาก คนสนิทอดีตพระพรหมดิลก ไม่ได้เข้ามาจัดการ ชาวบ้านหลายคนยังบอกว่า พวกเขาไม่ค่อยไม่พอใจที่เธอเข้ามามีอำนาจในวัด
ชาวชุมชนวัดสามพระยากล่าวว่า "ผมเนี่ยไม่ได้ไปยุ่งเกี่ยวกับวัดอยู่แล้ว คือคนที่เข้าไปบอกว่า ซ้อๆ ซ้อๆ มีแต่เรื่องไม่ดีกับซ้อก็ชาวบ้านเขาพูด เอาง่ายๆภาพรวมก็คือซ้อไม่ดี"
ขณะนี้อดีตพระพรหมดิลก ตกเป็นต้องหาร่วมกันฟอกเงิน ถูก ปปง.อายัดทรัพย์ 1,000,000 บาท พบเส้นทางการทอนเงินอุดหนุนโรงเรียนพระปริยัติธรรม 5,000,000 บาท ไปยังบัญชีครอบครัวอุดมโชคปิติ ส่วนใหญ่ผ่านบัญชีนางวิภาพร รวมเกือบ 8,000,000 บาท และสัญญาเช่าที่ดินวัดจึงเป็นปมสำคัญที่ทำให้ตำรวจขยายผลสอบว่า มีการเอื้อประโยชน์ภายให้กับใครหรือไม่ ซึ่งพบว่า นอกจากค่าเช่าที่ดินแล้ว ยังมีการให้เช่าพระและเอกสารขอเลื่อนสมณศักดิ์ในกุฎิจำนวนหลายชุด