ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การประชุมคณะรัฐมตรีนอกสถานที่ ระหว่างวันที่ 11- 12 มิ.ย.นี้ จ.พิจิตร นอกจากการติดตามการอนุมัติงบประมาณเพื่อการพัฒนาศักยภาพในพื้นที่ ในการกระชุม ครม.ในวันพรุ่งนี้ (12 มิ.ย.) นอกจากติดตามความก้าวหน้าการบริหารจัดการน้ำทั้งระบบ รวมถึงการติดตามโครงการก่อสร้างรถไฟฟ้ารางคู่ในพื้นที่ภาคเหนือตอนล่าง
นอกจากนี้ยังต้องติดกรณีสำนักเลขาธิการคณะรักษาความสงบแห่งชาติ หรือ คสช.เสนอ ครม. พิจารณาอนุมัติหลักการโควต้าบำเหน็จ 2 ขั้นให้กับเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานใน คสช.ร้อยละ 3 จำนวน 600 อัตรา
โดยบำเหน็จ 2 ขั้นที่ว่านี้ คือเงินค่าตอบแทนพิเศษที่นอกเหนือจากโควต้าปกติที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าคสช.ต้องการตอบแทน และเป็นขวัญกำลังใจให้กับเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานใน คสช.โดยจัดสรรงบประมาณประจำปี 2561 ในอัตราร้อยละ 3 จำนวน 600 นาย จากจำนวนเจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติงานใน คสช. เกือบ 20,000 นาย โดยไม่ได้มีการกำหนดชั้นยศ แต่จะขึ้นอยู่กับการพิจารณาในการปฏิบัติหน้าที่ โดยเบื้องต้นงบประมาณดังกล่าวจะใช้งบรายจ่ายประจำปีของหน่วยต้นสังกัดก่อน และหากไม่สามารถดำเนินการเบิกจ่ายได้ อาจจำเป็นต้องขอให้เบิกจ่ายจากงบกลาง
และเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานใน คสช.เกือบ 20,000 นาย ที่สนธิกำลังจาก 3 ฝ่าย คือ ทหาร ตำรวจ และ พลเรือน ที่กระจายอยู่ในพื้นที่ 77 จังหวัดทั่วประเทศ ตามภารกิจหลัก คือการดูแลรักษาความสงบเรียบ ร้อยการสนับสนุนภารกิจ และนโยบายของรัฐบาล การช่วยเหลือประชาชนที่ประสบภัยพิบัติทางธรรม ชาติ การปราบปรามผู้มีอิทธิพล และการจัดระเบียบสังคม ที่ขึ้นตรงกับกองกำลังรักษาความสงบเรียบ ร้อย หรือ กกล.รส.
ทั้งนี้ปกติการพิจารณาบำเหน็จข้าราชการ จะมีการพิจารณาปีละ 2 ครั้ง ครั้งแรกคือช่วงวันที่ 1 ต.ค.-31 มี.ค. และครั้งที่สอง คือวันที่ 1 เม.ย.- 30 ก.ย.ของทุกปี และพิจารณาบำเหน็จ 2 ขั้น ซึ่งการให้ขั้นของแต่ละที่ก็จะแตกต่างกัน อย่างหน่วยปกติครึ่งปีแรกให้ 0.5 ขั้น ครึ่งปีหลังให้ 0.5 ขั้น รวมเป็น 1 ขั้น ซึ่งคนที่อยู่ใน 600 นาย จะได้อีก 1 ขั้น รวมเป็น 2 ขั้น ซึ่งใน 1 ปี ข้าราชการคนหนึ่งเบ็ดเสร็จจะได้ไม่เกิน 2 ขั้น ไม่ใช่เพิ่มให้อีกเป็น 2 ขั้น หรือหากหน่วยให้ไปแล้ว 1.5 ขั้น ก็จะได้อีก 0.5 ขั้น เพื่อให้ครบ 2 ขั้น และการให้บำเหน็จ 2 ขั้น เมื่อปีที่แล้วก็มีการพิจารณาให้กับผู้ปฏิบัติการใน คสช.เช่นกัน จำนวน 721 อัตรา