วันนี้ (12 พ.ค.2561) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า คณะกรรมการธุรกรรมสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน หรือ ปปง. เตรียมยึดทรัพย์ นายพุฒิพัฒน์ เลิศเชาวสิทธิ์ อดีตปลัดกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์, นายณรงค์ คงคำ อดีตรองปลัดกระทรวง และนายธีรพงษ์ ศรีสุคนธ์ อดีตผู้ตรวจราชการกระทรวง พร้อมพวกมูลค่าทรัพย์สินกว่า 88 ล้านบาท พร้อมแจ้งข้อหาร่วมกันฟอกเงิน
จากการตรวจสอบรายงานการทำธุรกรรมเกี่ยวกับการทำธุรกรรมของบุคคล รวมทั้งผู้ซึ่งเกี่ยวข้องสัมพันธ์กับผู้กระทำความผิดมูลฐานฟอกเงิน พบว่าเป็นทรัพย์สินเกี่ยวกับการกระทำความผิดมูลฐานตาม พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน ในห้วงเวลาเดียวกันที่พบปัญหาการทุจริตเงินคนไร้ที่พึ่ง ปี 2560 งบประมาณกว่า 500 ล้านบาท
ทีมข่าวไทยพีบีเอสตรวจสอบข้อมูลเชิงลึกจากแหล่งข่าวที่เชื่อถือได้ พบว่า นายพุุฒิพัฒน์ ยังให้เพื่อนหญิงคนสนิท ที่อดีตเคยเป็นข้าราชการกระทรวง พม. แต่เพิ่งลาออกจากราชการเมื่อปี 2559 ดำเนินการซื้อทรัพย์สินหลายรายการอีกด้วย
ขณะที่อดีตผู้บริหารกระทรวง พม.ทั้ง 3 คน ถูกให้ออกจากราชการไว้ก่อน ตั้งแต่วันที่ 10 เม.ย. โดยถูกตัดขาดจากสวัสดิการเงินเดือนทุกอย่าง จนกว่าผลการสอบวินัยร้ายแรงแล้วเสร็จ
คดีทุจริตเงินคนไร้ที่พึ่ง เริ่มจากนิสิตฝึกงานคนหนึ่งที่ออกมาเปิดโปง ศูนย์ช่วยเหลือที่จังหวัดขอนแก่น จากนั้น ป.ป.ท.ก็ปูพรมตรวจทั้งประเทศ พบมูลทุจริตมากถึง 68 ศูนย์ การทุจริตครั้งนี้อาจมีผู้เกี่ยวข้องมากที่สุดครั้งหนึ่งในประวัติศาสตร์ เพราะพบว่า เจ้าหน้าที่รัฐมีส่วนถึง 267 คน
ความกล้าหาญของนักศึกษาฝึกงาน 1 คน ทำให้สำนักงาน ป.ป.ท.ขยายผลตรวจสอบศูนย์คุ้มครองคนไร้ที่พึ่ง 76 จังหวัด พบมูลทุจริตมากถึง 68 ศูนย์ มีข้าราชการเจ้าหน้าที่ของรัฐเกี่ยวข้อง 267 คน ล่าสุด ป.ป.ท.ตั้งคณะอนุกรรมการไต่สวนข้อเท็จจริงไปแล้ว 60 จังหวัด
แม้ศูนย์คุ้มครองบางแห่งยังไม่พบมูลทุจริตแต่ ป.ป.ท.จะตรวจสอบว่ามีการนำเงินช่วยเหลือไปใช้จ่ายในกรณีอื่นๆ หรือไม่ เพราะล่าสุดศูนย์คุ้มครองคนไร้ที่พึ่ง จ.สิงห์บุรี ตรวจสอบไม่พบการทุจริตการจ่ายเงินช่วยเหลือ แต่กลับพบว่าผู้อำนวยการศูนย์ฯ นำเงินบางส่วนไปจัดซื้อผ้าห่มเกรดต่ำแต่ราคาสูง และคาดว่าจะเป็นจังหวัดที่ 69 ที่ ถูก ป.ป.ท.กล่าวหาทุจริตเงินคนไร้ที่พึ่ง
ทั้งนี้ ผลสอบวินัยร้ายแรงทั้งอดีตปลัด รองปลัด และผู้ตรวจราชการกระทรวง พม.พร้อมพวก พบว่ามี 11คนเป็นผู้อยู่เบื้องหลังทุจริต โทษสูงสุดคือปลดออก หรือไล่ออกจากราชการ และมีข้าราชการอีก 15 คน ที่มีส่วนรู้เห็น แต่ถูกกันไว้เป็นพยาน เนื่องจากให้การเป็นประโยชน์ รวมแล้วมีผู้บริหารและข้าราชการ พม.ทุจริตมากถึง 26 คน