วันนี้ (26 มิ.ย.2561) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ฟุตบอลโลกนัดสุดท้ายกลุ่มเอ เจ้าภาพ รัสเซีย พบ อุรุกวัย ซึ่งทั้ง 2 ทีมผ่านเข้ารอบไปเเล้ว ได้ส่งนักเตะสำรองหลายคนลงสนาม เเละเป็นอุรุกวัย ขึ้นนำก่อน 1-0 ในนาทีที่ 10 จากลูกฟรีคิ๊กระยะ 22 หลาของ หลุยส์ ซัวเรซ นับเป็นประตูที่ 2 ของซัวเรซในปีนี้ เเละเป็นประตูที่ 7 ในการลงเล่นฟุตบอลโลก 3 สมัย
ถัดมานาที 23 อุรุกวัย นำเพิ่มเป็น 2-0 จากจังหวะยิงไกลของ ดีเอโก้ ลาซัลต์ ไปเเฉลบ เดนิส เชอรีเชฟ เข้าประตูตัวเอง
หลังจากนั้นนาที 36 รัสเซีย เหลือ 10 คน เมื่อ อีกอร์ สโมลนิคอฟ ทำฟาล์ว ลาซัลต์ ถูกใบเหลืองเเดงไล่ออกจากสนาม ก่อนที่เอดิสัน คาวานี่ จะมาทำประตูปิดกล่องในนาทีสุดท้าย ช่วยให้อุรุกวัยถล่ม รัสเซีย ขาดลอย 3-0 เก็บได้ 9 คะเเนนเต็ม เข้ารอบ 16 ทีมสุดท้ายในฐานะเเชมป์กลุ่ม ส่วนรัสเซีย มี 6 คะเเนนจบที่ 2
อีกคู่ในกลุ่มเดียวกันซาอุดีอาระเบีย นำทีมโดย เอสซัม เอล ฮาดารี่ ผู้รักษาประตู วัย 45 ปี กับ 161 วัน นักเตะอายุมากสุดในฟุตบอลโลก พบ อียิปต์ เเละเป็นอียิปต์ ขึ้นนำก่อน 1-0 นาที 22 จาก โมฮาเหม็ด ซาลาห์ นับเป็นประตูที่ 2 ในรายการนี้
ถัดมาในช่วงทดเจ็บครึ่งเเรกซาอุดิอาระเบีย ได้ลูกโทษที่ 2 ในเกมนี้ จากการดูภาพ VAR เเละเป็น ซัลมาน อัล-ฟาราจ ยิงให้ซาอุดิอาระเบีย ตามตีเสมอ 1-1
ในช่วงทดเวลาบาดเจ็บนาที 95 ซาอุดิอาระเบีย ได้ประตูเเซงชนะ 2-1 จาก ซาเล็ม อัล-ดอว์ซาวี่ ส่งผลให้ ชนะเป็นครั้งเเรกในบอลโลก รอบ 12 เกม มี 3 คะเเนน จบอันดับ 3 ขณะที่อียิปต์ เเพ้รวดทั้ง 3 เกม จบอันดับสุดท้าย
อิหร่าน ตีเสมอ โปรตุเกส 1-1 เเต่ตกรอบบอลโลก
ส่วนฟุตบอลโลกนัดสุดท้ายของกลุ่มบี โปรตุเกส พบ อิหร่าน ที่ต้องชนะสถานเดียว เเละเป็นโปรตุเกส ขึ้นนำ 1-0 ในนาทีสุดท้ายครึ่งเเรก จากริคาร์โด้ กวาเรสม่า ที่ลงเป็นตัวจริงในเกมนี้
ถัดมานาที 51 โปรตุเกส พลาดโอกาสขึ้นนำ 2-0 เมื่อ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ถูกทำฟาล์วในเขตโทษ ก่อนจะยิงไปติดเซฟ เบ-ราน-วานด์
ก่อนที่นาที 90 อิหร่าน มาได้จุดโทษจากการทำเเฮนด์บอลของ เซดริก โซอาเรส เเละเป็นคาริม อันซาริฟาร์ด กัปตันทีมยิงให้อิหร่าน ตามตีเสมอ 1-1 หลังจากนั้น อิหร่าน บุกหนักจนเกือบได้ประตูชัยจากเมห์ดี้ ตาเรมี่ เเต่บอลหลุดเสาออกไป
อัสปาส ยิงประตูทดเจ็บช่วยสเปนเสมอโมร็อกโก
อีกคู่ในกลุ่มเดียวกัน สเปน พบ โมร็อกโก ที่ตกรอบไปเเล้ว เเต่เป็นโมร็อกโก ที่พลิกขึ้นนำก่อน 1-0 ในนาที 14 จากคาลิด บูอาติบ ถัดมา 5 นาที สเปนตีเสมอ 1-1 จาก อิสโก้
เเต่นาที 81 โมร็อกโก เเซงนำอีกครั้ง 2-1 จากลูกเตะมุม เเละเป็นยูซเซฟ เอ็น-เน-ซีรี่ โหม่งเข้าไปไม่พลาด
ในช่วงทดเจ็บยาโก้ อัสปาส ทำประตูตามตีเสมอ 2-2 ซึ่งผู้ตัดสินดูภาพจาก VAR ก่อนจะเป่าให้เป็นประตู ช่วยให้สเปน เก็บได้ 5 คะเเนน เเละมีผลต่างประตูเท่ากับ โปรตุเกส เเต่สเปน ทำประตูได้มากกว่า ทำให้จบอันดับ 1 ไปพบรัสเซีย ส่วนโปรตุเกส จบอันดับ 2 เข้ารอบไปพบอุรุกวัย ในวันที่ 1 ก.ค.นี้