วันนี้ (30 มิ.ย.2561) นายพนม จุมปูนาง คนขับรถตู้เชียงรายรำลึก ให้สัมภาษณ์เกี่ยวกับการให้บริการรถตู้รับส่งเจ้าหน้าที่และทีมช่วยเหลือและค้นหา 13 ชีวิตระหว่างสนามบินเชียงรายถึงถ้ำหลวงว่า เริ่มให้บริการรับส่งมาตั้งแต่วันที่ 25 มิถุนายนที่ผ่านมา โดยได้ทราบและติดตามข่าวมาตั้งแต่วันเกิดเหตุ รวมทั้งลงพื้นที่ตั้งแต่วันแรกๆ เลย เห็นความช่วยเหลือมาจากทั้งในประเทศและต่างประเทศ ด้วยความที่เป็นคนในพื้นที่ คิดว่านิ่งดูดายไม่ได้ และมองว่ารถตู้น่าจะมีประโยชน์ในการรับส่งเจ้าหน้าที่ชุดช่วยเหลือเร่งด่วนหรือชุดอื่นที่ไม่มีรถในการเดินทาง โดยไม่คิดค่าใช้จ่าย จึงอยากให้ความช่วยเหลือบ้าง
ทั้งนี้ ได้รับส่งเจ้าหน้าที่และทีมช่วยเหลือมาหลายชุดแล้ว ซึ่งมีการติดต่อมาอย่างต่อเนื่องและในวันนี้จะไปรับอีก 2 ชุด คือชุดโรยตัวจาก จ.ภูเก็ต และทีมกู้ภัยสมทบจากกรุงเทพฯ โดยส่วนใหญ่จะโทรมาแจ้งให้ทราบก่อนล่วงหน้า เนื่องจากหากแจ้งกะทันหันอาจจะไม่สามารถมาให้บริการได้ ซึ่งในปัจจุบันมีการจองคิวเป็นจำนวนมาก ซึ่งจะขอเน้นรับส่งชุดช่วยเหลือเร่งด่วนที่พร้อมใจมาช่วยเหลือการค้นหา
สำหรับการรับส่งเจ้าหน้าที่จากสนามบินเชียงรายไปยังถ้ำหลวงจะใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง ไปกลับรวม 2 ชั่วโมง ตั้งใจว่าจะดำเนินการจนกว่าการปฏิบัติการช่วยเหลือและค้นหาจะเสร็จสิ้นลงไป สำหรับกรอบระยะเวลาในการช่วยเหลือ คิดว่าจะทำไปเรื่อยๆ ซึ่งมีหน่วยงานเดินทางมาช่วยเหลืออย่างต่อเนื่องก็จะทำไปเรื่อยๆ เราเป็นเจ้าถิ่นเป็นเจ้าบ้านที่ดี สงสารน้องๆ เป็นสัปดาห์แล้ว ยังไม่ติดต่อมาและติดต่ออะไรไม่ได้เลย
นายพนม กล่าวว่า ขอให้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่เรามองไม่เห็นปล่อยน้องออกมาเถอะ ครบสัปดาห์แล้ว สงสารทั้งพ่อแม่พี่น้องชาวเชียงรายทั้งพ่อแม่ของน้องและทีมช่วยเหลือต่างๆ ทยอยเข้ามาช่วยเหลือ แต่คิดว่าคงอีกไม่นาน เพราะว่าทีมช่วยเหลือทำงานทั้งวันทั้งคืน ไม่ได้หยุดพัก โดยขอเป็นตัวแทนชาวเชียงรายขอบคุณเจ้าหน้าที่ทุกคนทุกหน่วยงานทุกภาคส่วนที่เข้ามาร่วมกันค้นหาเด็กที่หายไป ส่วนตัวเองจะขอทำหน้าที่ของตัวเองให้ดีที่สุด ช่วยรับประสานส่งเจ้าหน้าที่ชุดเร่งด่วนมีอะไรก็สามารถติดต่อมาได้
นางรวินท์มาศ ลือเลิศ เจ้าของกิจการซักรีดเสื้อผ้า กล่าวว่า ได้ติดตามข่าวของผู้สูญหายทั้ง 13 คน มาตั้งแต่ช่วงเย็นของวันที่ 23 มิถุนายน จนถึงช่วงเช้าของวันที่ 24 มิถุนายน ซึ่งตนเองพักอาศัยอยู่ใน อ.แม่จัน จ.เชียงราย ห่างจากถ้ำหลวงประมาณ 30 กิโลเมตร ซึ่งเป็นสถานที่เคยไปเที่ยวสมัยเด็ก โดยเข้ามารับซักผ้าให้เจ้าหน้าที่ที่มาปฏิบัติงานตั้งแต่วันที่ 28 มิถุนายน เพราะว่าเห็นภาพเจ้าหน้าที่ที่มาปฏิบัติงานเปรอะเปื้อน หลังจากมีเจ้าหน้าที่ที่ทำงานข้างในส่งรูปมาให้ดู เลยมาคิดดูว่าจะสามารถช่วยอะไรได้บ้าง เพราะช่วงก่อนหน้านี้มีคนเข้ามาช่วยเหลือจำนวนมาก
จากการลองคิดต่างดูว่าจะสามารถช่วยอะไรได้ จนเป็นที่มาของการรับซักเสื้อผ้าให้กับเจ้าหน้าที่ เพราะเท่าที่สังเกตดูแล้ว เจ้าหน้าที่น่าจะไม่มีเวลาซักผ้า บางนายมาแบบฉุกเฉินและมีเสื้อผ้ามาชุดเดียว ซึ่งเห็นใจ จึงอยากสนับสนุนในส่วนนี้ เพราะงานอย่างนี้ ทุกคนไม่คิดว่าจะลากยาวได้ขนาดนี้ คิดว่าการช่วยเหลือน่าจะแล้วเสร็จภายใน 1-2 วัน
ทั้งนี้ ได้ประสานงานกับหัวหน้ากู้ภัยให้ช่วยกระจายข่าวในการรับเสื้อผ้ามาซัก ซึ่งการติดต่อสื่อสารครั้งแรกจะลำบาก กว่าจะเจอตัวเจ้าหน้าที่และหัวหน้า เพราะไม่รู้จักใครและไม่ได้คลุกคลีอะไรกับเขาอยู่แล้ว โดยตั้งใจจะทำจนกว่าจะเสร็จสิ้นภารกิจ ซึ่งใจจริงแล้วอยากให้เสร็จวันนี้พรุ่งนี้ และอยากให้เจอน้องเร็วๆ เพราะทุกคนเหนื่อย เมื่อเทียบกับเรา เรายังเหนื่อยขนาดนี้เลย ซึ่งเจ้าหน้าที่ต้องลุยโคลน แดด และฝนตั้งแต่เช้าไปจนดึกดื่น เราเหนื่อยแค่นี้ก็โอเค ช่วยๆ กัน
รวินท์มาศ กล่าวว่า ที่ช่วยตรงนี้ ช่วยเพราะความเต็มใจไม่ต้องเกรงใจที่เสนอตัวเข้าไปช่วย คือสามารถทำได้ และมีทีมงานช่วยเหลือในส่วนของวัสดุ อุปกรณ์ และน้ำยา ไม่ต้องเกรงใจว่าจะลำบาก และขอให้ได้ช่วย เพราะเจ้าหน้าที่บางคนเกรงใจ โดยอยากบอกว่าทำงานให้เต็มที่นะ สู้ๆ เดี๋ยวคนทางนี้จะดูแลเรื่องเสื้อผ้าให้เอง ส่วนน้องทั้ง 13 คน อยากจะบอกว่ารีบออกมาเถอะคะ ทุกคนเหนื่อยแล้ว เจ้าหน้าที่ก็เหนื่อย พี่ก็เหนื่อย ทุกคนเหนื่อยแล้วจริงๆ รีบออกมาเถอะคะ
นางอารียา นามแก้ว แม่บ้าน กล่าวว่า ติดตามข่าวผู้สูญหายทั้ง 13 คนจากทางสื่อโทรทัศน์ ตั้งแต่ช่วงหัวค่ำของวันที่ 23 มิถุนายน ซึ่งเห็นข่าวผู้สูญหายทั้งหมดติดอยู่ในถ้ำ อยากจะไปช่วยเหลือ แต่ว่าช่วยอะไรไม่ได้ เรามีน้ำใจก็ช่วยกันทำกับข้าวไปแจกให้กับเจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติงาน โดยในวันที่ 26 มิถุนายน ได้เริ่มแจกข้าวหมูทอด น้ำพริกตาแดง ไส้อั่ว และจะแจกวันละครั้ง ซึ่งส่วนใหญ่จะแจกอาหารจำพวกข้าวเหนียวหมูหรืออาหารที่ไม่เสียง่าย และจะแจกไปจนเสร็จสิ้นภารกิจ
ทั้งนี้ อยากให้น้องๆ ออกมาเร็วๆ ซึ่งในวันนี้ หลังแจกข้าวเสร็จแล้วได้ไปจุดธูปไหว้เจ้าที่เจ้าทางและสิ่งศักดิ์สิทธิ์ขอให้บันดาลใจให้ปล่อยน้องออกมา โดยอยากให้น้องออกมาเร็วๆ ขณะเดียวกัน อยากขอบคุณเจ้าหน้าที่ทุกหน่วยงาน ขอให้สู้ๆ นะ อยู่ที่บ้านก็เป็นกำลังใจให้ทุกหน่วยงาน เห็นในสื่อโทรทัศน์ก็เห็นว่าลำบาก ก็เข้าใจ ส่วนใหญ่ก็ทำงานเต็มที่ อยากให้ช่วยน้องๆ ออกมา
ด.ช.พชรพล หมื่นเกี๋ยง นักเรียนชั้น ม.1 โรงเรียนสามัคคีวิทยาคมแม่สาย กล่าวว่า ติดตามข่าวการสูญหายทั้ง 13 คน ตั้่งแต่ช่วง 2 วันแรกจากแม่ของตนเอง ซึ่งในวันนี้มาเป็นจิตอาสาด้วยการเก็บขยะ เนื่องจากพ่อจะมาช่วยและบริจาคเงินอยู่แล้ว จึงขอติดตามมาด้วย ซึ่งตนเองมีเพื่อนที่เป็นสมาชิกหมูป่าฯ และติดค้างอยู่ในถ้ำหลวง อยากให้ทุกคนออกมาเร็วๆ ขอส่งแรงใจและกำลังใจให้ทุกคนและเจ้าหน้าที่ด้วย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จิตอาสายังเดินขนขยะลงด้านล่าง เพื่อไม่ให้รถขยะขึ้นด้านบน เพราะจะส่งผลต่อการจราจร และการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่
อ่านข่าวเพิ่มเติม
ประเมินข้อบกพร่องแผนลำเลียง 13 ชีวิต สูบน้ำลดน่าพอใจ
"หน่วยซีล"เข้าโถง 3 สำเร็จรอบที่ 2
"วิระชัย" ส่งทีมลุยสำรวจลงโพรงถ้ำ 50 เมตร หวังถึงทีมหมูป่า
ซ้อมแผนนำตัว "ทีมหมูป่า"ออกจากถ้ำหลวง