หลังการลงพื้นที่ระหว่างประชุมครม.สัญจร จ.อุบลราชธานี เป็นอีกหนึ่งปรากฎการณ์ "ดูด" ที่ถูกจับตา หลังมีอดีตส.ส.พรรคเพื่อไทย จ.อุบลราชธานี นำโดยนายสุพล ฟองงาม นำทีมต้อนรับ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี
เท่ากับเป็นการแสดงเจตนาย้ายพรรค และเตรียมร่วมมือกับพรรคพลังประชารัฐ ซึ่งมีข้อมูลว่าเตรียมส่งผู้สมัครส.ส. 10 คน ใน 10 เขตเลือกตั้ง จ.อุบลราชธานี ในนามพรรคพลังประชารัฐ
ข้อมูลการเลือกตั้ง ปี2554 จ.อุบลราชธานี กำหนดเขตเลือกตั้ง 11 เขต มีส.ส.พรรคเพื่อไทย 7 เขต เมื่อมีส.ส.ย้ายพรรค ส่งผลให้พรรคเพื่อไทยต้องจัดทัพใหม่เพื่อสู้เลือกตั้ง
นายสมคิด เชื้อคง อดีต ส.ส. เพื่อไทย จ.อุบลราชธานี
นายสมคิด เชื้อคง อดีต ส.ส.อุบลราชธานี พรรคเพื่อไทย ยอมรับว่าอดีตส.ส.ย้ายพรรค ส่งผลต่อพรรคเพื่อไทย เพราะเป็นส.ส.ที่เคยชนะเลือกตั้ง แต่การย้ายพรรคไม่เกิน 10 คนไม่ใช่เรื่องแปลก ซึ่งหลังจากนี้ต้องมีการหาตัวผู้สมัครใหม่
ย้ายเป็นเรื่องปกติ แต่การดูดโดยใช้ผลประโยชน์ ตำแหน่ง หรือขู่สลายเพื่อไทยไม่ใช่เรื่องปกติ
นายสมคิด กล่าวว่า ผู้สมัครส.ส.ระดับเขตมีความสำคัญ ต้องหาคนลงสมัครใหม่ที่มีความพร้อม เพราะคะแนนจะถูกนำไปคำนวณ ส.ส.บัญชีรายชื่อด้วย
ย้อนรอยดูด ส.ส.
เดือนม.ค. ปี 2560 มีภาพพล.อ.ประยุทธ์ และพล.อ.ฉัตรชัย สาริกัลยะ รองนายกรัฐมนตรีคู่กับตระกูล "สะสมทรัพย์" ตามมาด้วยเสียงวิจารณ์ว่ารัฐบาลเดินสายพูดคุยกับกลุ่มการเมือง ซึ่งตระกูล "สะสมทรัพย์" คือนักการเมืองที่มีฐานเสียงใน จ.นครปฐม ที่อยู่ในสังกัดพรรคเพื่อไทย
ต่อมาเดือนมี.ค. มีข่าวว่านายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี มีการนัดหารือกับกลุ่มบ้านริมน้ำของนายสุชาติ ตันเจริญ เพื่อนสนิทของนายสมคิด และยังมีชื่อ ส.ส.กลุ่ม 16 ร่วมหารือด้วย แต่สุดท้ายการนัดพบปะที่บ้านริมน้ำ 1 เม.ย. ไม่มีนายสมคิดร่วมการพูดคุยดังกล่าว
นอกจากนี้ในเดือนมี.ค. ยังมี ส.ส. 3 คน เข้าพบนายสมคิดที่ทำเนียบรัฐบาล ได้แก่ 1.นายสกลธี ภัททิยกุล 2.นายณัฏฐพล ทีปสุวรรณ อดีต ส.ส.ประชาธิปัตย์ และ 3.นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ อดีต ส.ส.สิงห์บุรี พรรคชาติไทย แม้ทุกคนยืนยันว่าการเข้าพบนายสมคิดเป็นเรื่องธุรกิจส่วนตัว แต่เวลาต่อมานายสกลธีได้รับแต่งตั้งให้เป็นรองผู้ว่าฯ กทม. และลาออกจากพรรคประชาธิปัตย์
จากนั้นเดือนเม.ย. พล.อ.ประยุทธ์ แต่งตั้งนายสนธยา คุณปลื้ม หัวหน้าพรรคพลังชล เป็นที่ปรึกษาด้านการเมือง ทำให้การวิเคราะห์อนาคตทางการเมืองของพล.อ.ประยุทธ์ ชัดเจนขึ้น เพราะนายสนธยา เคยเป็นอดีตกุนซือคนสำคัญของนายทักษิณ ชินวัตร ในการเลือกตั้ง และเป็นอดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรมในสมัยรัฐบาลน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ด้วย
พรรคเดิมเช็กชื่อ ใครอยู่-ใครไป
ในเดือน เม.ย. ยังเป็นช่วงที่พรรคเก่าต้องยืนยันสมาชิก ซึ่งเป็นการเช็กชื่อส.ส.ไปในตัว เพราะคนที่ไม่ยืนยันสมาชิกเท่ากับมีเจตนาย้ายพรรค โดยพรรคประชาธิปัตย์ มีเพียงกลุ่มนายสุเทพ เทือกสุบรรณ แกนนำกปปส. ที่ไม่ยืนยันสมาชิก ขณะที่นายสกลธีมายืนยันสมาชิกก่อน แต่ลาออกรับตำแหน่งรองผู้ว่าฯ กทม. ภายหลัง
ส่วนพรรคเพื่อไทยมี 2 กลุ่ม ที่ไม่ยืนยันสมาชิกคือ "กลุ่มวาดะห์" ที่มีนายวันมูหะมัดนอร์ มะทา เป็นแกนนำและตั้งพรรคใหม่ชื่อ "พรรคประชาชาติ" รวมถึงตระกูล "สะสมทรัพย์" ที่ไม่ยืนยันสมาชิกตามคาด
อ่านเพิ่ม ยาก! พรรคใหม่ได้ที่นั่ง ส.ส.
อ่านเพิ่ม เช็กความพร้อมพรรคเก่า-ใหม่
เปิดตัวกลุ่มสามมิตร
เดือนมิ.ย. มีการเปิดตัว "กลุ่มสามมิตร" ซึ่งมี "สาม ส." เป็นอดีตผู้ก่อตั้งพรรคไทยรักไทย ล้วนเป็นคนใกล้ชิดนายทักษิณ ได้แก่ 1.นายสมศักดิ์ เทพสุทิน แกนนำกลุ่มมัชฒิมา ที่มีส.ส.ในพรรคไทยรักไทยมากที่สุด เรียกว่า "กลุ่มวังน้ำยม" 2.นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ อดีตเลขาธิการพรรคไทยรักไทย และ 3.นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี และอดีตผู้ก่อตั้งพรรคไทยรักไทย
อ่านเพิ่มเติม "สามมิตร" 3 ส. สายดูด
ตั้งแต่การเปิดตัวมีอดีต ส.ส.เพื่อไทย ร่วมงานแล้ว อาทิ นายปรีชา เร่งสมบูรณ์สุข อดีต ส.ส.เลย พรรคเพื่อไทย และที่คาดไม่ถึงคือ "แรมโบ้อีสาน" หรือนายสุภรณ์ อัตถาวงศ์ แกนนำนปช.และร่วมงานกับนายทักษิณตั้งแต่พรรคไทยรักไทยถึงพรรคเพื่อไทย ซึ่งเคยสาบานว่าจะไม่กลับมาเล่นการเมืองอีก
ต่อมานายสมศักดิ์และนายสุริยะ ลงพื้นที่แถบอีสานพูดคุยกับอดีตนักการเมืองต่อเนื่อง พร้อมประกาศเชิญพรรคชาติพัฒนาที่มีนายสุวิจน์ ลิปตพัลลภ เป็นแกนนำเข้าร่วมกลุ่มด้วย
ภาพกรรมการบริหารพรรคไทยรักไทย
การดูด ส.ส.เพื่อไทยถี่ขึ้น จนนายทักษิณวิดีโอจากลอนดอน ประเทศอังกฤษ เพื่อเสริมความมั่นใจคนในพรรคเพื่อไทย ยืนยันว่าพรรคจะชนะการเลือกตั้งและกวาดที่นั่งในภาคอีสาน พร้อมระบุว่าส.ส.ที่ย้ายพรรคคือคนมีคดีติดตัวและอาจถูกจูงใจด้วยผลประโยชน์
นายอนุสรณ์ อุณโณ คณะสังคมวิทยาและมานุษยวิทยา มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์(มธ.) เชื่อว่าการดูด ส.ส. เป็นการเตรียมความพร้อมของผู้มีอำนาจในการสืบทอดอำนาจ ซึ่งต้องการอาศัยกลไกของพรรคการเมืองและนักการเมืองสนับสนุน
เมื่อเดินหน้าสู่การเมือง ต้องอาศัยพรรคการเมือง โดยมีกลุ่มสามมิตรดูด ส.ส. เพื่อเปลี่ยนจากผู้นำรัฐประหาร สู่ผู้นำที่มาจากการเลือกตั้งและกุมบังเหียนรัฐ
ดังนั้นการดูดส.ส. จึงเป็นเหตุการณ์ที่น่าจับตา เพราะส.ส.เป็นฐานเสียงสำคัญในการสนับสนุนบุคคลเข้าสู่ตำแหน่งนายกรัฐมนตรี