วานนี้ (15 ส.ค.2561) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ประชุมคณะอนุกรรมการเพื่อบูรณาการจัดการขยะ มีข้อสรุปให้ยุตินำเข้าขยะอิเล็กทรอนิกส์ ตามพิกัดศุลกากร 432 รายการ โดยกรมศุลกากรจะเผยแพร่ผ่านคิวอาร์โค้ดให้ทราบต่อไปพร้อมเตรียมรายงานต่อ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และเสนอให้กระทรวงพาณิชย์ และกรมโรงงานอุตสาหกรรมออกประกาศ เพื่อให้มีผลบังคับใช้ ภายใน 6 เดือน
ส่วนเครื่องใช้ไฟฟ้าและอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์มือสอง ที่ห้ามนำเข้าทั้งหมด ยกเว้นจะแสดงรายการได้ว่า นำเข้ามาใช้ในโรงงางใช้งานได้ยาวนาน ช่วยประหยัดต้นทุนและไม่ก่อมลพิษใด ๆ กำจัดได้ทั้งหมด ซึ่งกรมโรงงานอุตสาหกรรม จะพิจารณาอนุญาตเป็นรายสินค้าไป
สำหรับเศษโลหะที่ประเทศไทยขาดแคลนวัตถุดิบ เช่น เหล็ก ทองแดง อลูมิเนียม สามารถนำเข้าได้ แต่ต้องคัดแยกมาโดยสมบูรณ์ ล้างทำความสะอาดจากต่างประเทศ พร้อมมีการรับรอง และไม่ปะปนชนิดกัน
ขณะที่เศษพลาสติก ยังยืนยันหลักการให้ยุตินำเข้าภายใน 2 ปี หรือสิ้นปี 2563 โดยหน่วยงานที่เกี่ยว ข้อง ยังต้องควบคุมการลักลอบนำเข้าขยะพิษ อย่างเข้มข้น
พล.อ.สุรศักดิ์ กาญจนรัตน์ รัฐมนตรีว่ากากระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ระบุว่า จะบังคับใช้กฎหมายตั้งแต่ขั้นตอน ขออนุญาตตั้งโรงงน การนำเข้า การขนส่ง ทุกอย่างต้องเป็นไปตามระบบทั้งหมด ถ้าไม่ทำตามระบบถือไม่ทำตามกฎหมาย จะเป็นการทำให้หน่วยงานต่างๆ กรมศุลกากร กรมโรงงานอุตสาหกรรม และท้องถิ่นที่มีความเข้มงวดทางมาตรการกฎหมาย
นอกจากนี้สนช.เตรียมพิจารณา ร่าง พ.ร.บ.การจัดการซากผลิตภัณฑ์เครื่องใช้ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์และซากผลิตภัณฑ์อื่น วาระแรก วันที่ 7 ก.ย.นี้ ซึ่งจะช่วยให้การกำจัดขยะพิษมีแนวทางชัดเจนขึ้น