เมื่อวานนี้ (20 ส.ค.2561) นายสนิท พรหมวงษ์ อธิบดีกรมการขนส่งทางบก (ขบ.) เปิดเผยว่า ขณะนี้กรมการขนส่งทางบก กำลังบูรณาการกฎหมาย 2 ฉบับ คือ พ.ร.บ.รถยนต์ และ พ.ร.บ.ขนส่งทางบก เข้าด้วยกัน เพื่อให้เป็นกฎหมายเดียวง่ายต่อการกำกับดูแล รวมทั้งเร่งปรับปรุงรายละเอียดของกฎหมายให้ทันสมัย และสอดคล้องกับพฤติกรรมการขับขี่ของผู้ใช้รถใช้ถนนให้มากขึ้น
สำหรับร่างกฎหมายฉบับแก้ไข ขณะนี้ผ่านความเห็นชอบของสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาเรียบร้อยแล้ว อยู่ระหว่างการพิจารณาของสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ซึ่งหากผ่านการพิจารณาแล้ว จะประกาศลงในราชกิจจานุเบกษา และเมื่อประกาศครบ 1 ปี จะมีผลบังคับใช้อย่างเป็นทางการ
การแก้ไขกฎหมายครั้งนี้ ได้ปรับเพิ่มบทลงโทษผู้ขับขี่ที่กระทำผิด ซึ่งเชื่อว่าจะช่วยลดอุบัติเหตุ และความสูญเสียต่อชีวิตและทรัพย์สินได้ โดย พ.ร.บ.รถยนต์ เสนอปรับเพิ่มโทษสำคัญใน 3 มาตรา คือมาตรา 64 ขับรถโดยไม่มีใบอนุญาต เสนอปรับเพิ่มโทษเป็นจำคุกไม่เกิน 3 เดือน ปรับสูงสุดไม่เกิน 50,000 บาท จากเดิม จำคุกไม่เกิน 1 เดือน ปรับสูงสุดไม่เกิน 1,000 บาท
มาตรา 65 ขับรถในระหว่างใบอนุญาตสิ้นอายุ ถูกพักใช้ หรือเพิกถอนใบอนุญาต หรือถูกยึดใบอนุญาต เพิ่มโทษจำคุก คือจำคุกไม่เกิน 3 เดือน โทษปรับสูงสุดไม่เกิน 50,000 บาท จากเดิมลงโทษปรับไม่เกิน 2,000 บาท และมาตรา 66 ขับรถโดยไม่แสดงใบอนุญาต ตามกฎหมายเดิมปรับไม่เกิน 1,000 บาท แต่ตามกฎหมายใหม่เสนอให้ปรับสูงสุดไม่เกิน 10,000 บาท
มีรายงานด้วยว่า ในกฎหมายใหม่ มีมาตรการเข้มงวด เพื่อคัดกรองในการออกใบอนุญาตขับขี่ และต้องพักใช้ หรือเพิกถอนใบอนุญาตนั้นได้ทันที เมื่อกระทำผิดตามเงื่อนไขที่กำหนด ส่วนการต่ออายุใบอนุญาตขับรถต้องอบรมทุกครั้ง อีกทั้งผู้สูงอายุเมื่อถึงเกณฑ์อายุระดับหนึ่ง จะต้องตรวจสุขภาพ เพื่อประเมินความสามารถในการขับขี่ด้วย
นอกจากนี้ ยังมีรายงานว่า กฎหมายฉบับใหม่ จะเพิ่มเติมข้อกำหนดในอีกหลายหมวด เช่น หมวดการประกอบการขนส่งโดยรถแท็กซี่ หรือรถบริการ หมวดสถานีขนส่ง หมวดการขนส่งโดยรถจักรยานยนต์สาธารณะ และหมวดยานพาหนะทางบกอื่น เช่น รถจักรยาน