ค้นหา
ทีวีออนไลน์
เว็บไซต์ในเครือ
เว็บไซต์บริการ

"ประวิตร" สั่งหาความจริงคดีข่มขืนชาวอังกฤษบนเกาะเต่า

อาชญากรรม
29 ส.ค. 61
18:40
590
Logo Thai PBS
"ประวิตร" สั่งหาความจริงคดีข่มขืนชาวอังกฤษบนเกาะเต่า
ตำรวจเร่งสอบปากคำพยานเพิ่ม 10 ปากยังไม่มีข้อมูลเหตุล่วงละเมิดทางเพศนักท่องเที่ยวชาวอังกฤษบนเกาะเต่า จ.สุราษฎร์ธานี ขณะที่เรียกร้องให้ครอบครัวนักท่องเที่ยวมาให้ข้อมูลที่ชัดเจน ส่วนพล.อ.ประวิตร ชี้หากไม่ใช่เรื่องจริงต้องดำเนินการตามขั้นตอนระหว่างประเทศ

วันนี้ (29 ส.ค.2561) หลังจาก พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระ ทรวงกลาโหม สั่งการให้ พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจท่องเที่ยว ลงพื้นที่ร่วมเป็นกรรมการสอบสวนคดีนักท่องเที่ยวชาวอังกฤษ อ้างถูกข่มขืนที่เกาะเต่า จ.สุราษฎร์ธานี แต่จนถึงขณะนี้ยังต้องความชัดเจน และยังไม่พบหลักฐานเพิ่มเติม พร้อมย้ำว่า หากไม่ใช่เรื่องจริงจะต้องดำเนินการตามขั้นตอนระหว่างประเทศ

พล.อ.ประวิตร ยังยืนยันว่า หน่วยงานความมั่นคงดูแลความปลอดภัยนักท่องเที่ยวอยู่แล้ว แต่ยอมรับว่า เกาะเต่ามีคนจำนวนมาก และที่ผ่านมาได้เพิ่มกำลังตำรวจดูแลพื้นที่แล้ว เพราะเคยเกิดเหตุอาชญากรรมหลายครั้ง ซึ่งหลังจากนี้ก็ต้องเพิ่มความระมัดระวังมากขึ้น

ทีมข่าวไทยพีบีเอส ลงพื้นที่เกาะติดแม้ว่ารองผู้บัญชาการตำรวจท่องเที่ยวจะตรวจสอบเหตุการณ์ข่มขืนที่เกาะเต่า และสรุปไปตั้งแต่เมื่อวานนี้ (28 ส.ค.) ว่า ไม่ได้เกิดขึ้นจริง แต่ในพื้นที่ตำรวจยังเดินหน้าหาคำตอบให้ชัดเจนแต่ทั้งหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์และพยานบุคคลที่สอบเพิ่มไปกว่า 10 ปาก ก็ยังไม่มีข้อมูลเหมือนกับที่สื่อต่างประเทศรายงาน

 

 

เดินหน้าหาเบาะแสพยานบุคคล-สภาพพื้นที่

ขณะที่ผู้ประกอบการท่องเที่ยวบริเวณหาดทรายรี ต.เกาะเต่า เข้าให้ปากคำกับพนักงานสอบสวนตำรวจภูธรสุราษฎร์ธานี ซึ่งเร่งรวบรวมพยานหลักฐาน เพื่อตรวจสอบว่ามีเหตุการณ์ข่มขืนเกิดขึ้นจริงหรือไม่ตามคำกล่าวอ้างของผู้เสียหาย โดยพยานบอกว่าแม้จะมีสถานประกอบการอยู่บริเวณหาดทรายรี แต่ไม่เคยทราบมาก่อนว่าในคืนวันที่ 25 มิ.ย.ที่ผ่านมา ได้เกิดเหตุการณ์ข่มขืนขึ้นหรือไม่

ถ้าไม่เกิดก็ดี เพราะมีผลกระทบแน่นอน จากที่เคยเห็นบางครั้งมาได้ระมัดระวัง กินดื่ม เราเห็นก็เป็นห่วงเสี่ยงที่จะเกิดเหตุการณ์ 


นอกจากนี้ พ.ต.อ.วิชอบ เกิดเกลี้ยง รองผบก.สุราษฎร์ธานี กล่าวว่า ตำรวจเร่งรวบรวมพยานหลักฐานใน 3 ส่วนคือพยานบุคคลซึ่งได้สอบปากคำพยานทั้งในพื้นที่เกาะเต่าและเกาะพะงัน ไปแล้วกว่า 10 ปาก 

ส่วนสภาพแวดล้อม การท่องเที่ยวได้มีการลงพื้นที่หาดทรายรีทั้งกลางวันและกลางคืนเพื่อตรวจสอบในเรื่องระยะทางของสถานที่ ที่ถูกกล่าวอ้างในแต่ละจุดว่ามีความสอดคล้องกับเวลาและลักษณะพื้นที่จริงเพียงไร รวมถึงหลักฐานนิติวิทยาศาสตร์โดยเฉพาะการตรวจสอบกล้องวงจรปิดในหลายจุดซ้ำอีกครั้งเนื่องจากในบางจุดระบบกล้องสามารถเก็บข้อมูลภาพได้นานหลายเดือน

 

 

เรียกร้องครอบครัว นทท.ให้ข้อเท็จจริง

ด้านนายไชยันต์ ธุระสกุล นายกเทศมนตรี ต.เกาะเต่าอ.เกาะพะงัน จ.สุราษฎร์ธานี กล่าวว่า ผู้ประกอบการ และชาวบ้านให้ความสำคัญต่อความปลอดภัยของนักท่องเที่ยวเป็นอย่างมาก โดยให้การดูแลตั้งแต่ท่าเรือไปจนถึงที่พักและในทุกจุดที่เดินทางไปท่องเที่ยว เพราะนักท่องเที่ยวถือเป็นผู้ให้ทุกสิ่ง

เรียกร้องให้นักท่องเที่ยวผู้เสียหายหรือครอบครัวเดินทางมาให้ข้อเท็จจริงกับทางการไทย เพื่อให้ความจริงได้ถูกเปิดเผยเนื่องจากหากเหตุการณ์ยังคลุมเครือ จะส่งผลกระทบต่อการท่องเที่ยวเป็นอย่างมาก และทางพื้นที่พร้อมอำนวยความสะดวกกับครอบครัว 

 


เกาะเต่ามีพื้นที่บนบกประมาณ 21 ตารางกิโลเมตรมีนักท่องเที่ยวมากกว่า1 ล้านคนต่อปีนำรายได้เข้าสู่เกาะเต่าปีละกว่า1หมื่นล้านบาทโดยมีประชากรซึ่งเป็นประชาชนในพื้นที่ 2,500คนส่วนที่เหลือเป็นแรงงานต่างด้าวเกือบ10,000 คน

ซึ่งในช่วงเย็นวันนี้ ทางผู้บังคับการตำรวจภูธรสุราษฎร์ธานีจะมีการนำพยานหลักฐานทั้ง3 ส่วนคือพยานบุคคลหลักฐานนิติวิทยาศาสตร์และสภาพแวดล้อมการท่องเที่ยวมาประมวลข้อมูลและเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทั้งหมดเพื่อสร้างความชัดเจนในเรื่องข่าวสารต่อไป

อ่านข่าวเพิ่มเติม

แม่ผู้เสียหายยืนยันมี DNA ผู้ก่อเหตุ พร้อมมาไทยแจ้งความ

ขีดเส้น 7 วัน สอบข้อเท็จจริงนักท่องเที่ยวถูกล่วงละเมิดทางเพศ

สั่งสอบข้อเท็จจริง ตร.ไม่รับแจ้งนักท่องเที่ยวถูกข่มขืน



 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง