นางจรรยา เกตุแก้ว อายุ 47 ปี อาชีพรับจ้าง เล่าว่า เริ่มดื่มเหล้ามาตั้งแต่ อายุ 30 แต่มาดื่มหนักมากช่วงอายุ 40 ปี เนื่องจากในครอบครัวมีปัญหาทะเลาะเบาะแว้งกันบ่อย อีกทั้งยังมีปัญหาเรื่องหนี้สินจึงทำให้รู้สึกเครียดและไม่สบายใจจนออกไปสังสรรค์กับเพื่อน ระบายปัญหาต่างๆ ตนเองรู้สึกผ่อนคลายลืมปัญหาได้ในช่วงระยะเวลาหนึ่ง หลังจากนั้นก็ดื่มตลอดทุกวันเป็นเวลา 6 ปี
ปกติดื่มสังสรรค์กับเพื่อนวันละ 3 กลม ตั้งแต่เช้ายันเย็น ไม่ว่าเทศกาลไหนก็ไม่ยอมพลาด
นางจรรยา กล่าวว่า ตนเองรู้สึกเบื่อ จนกระทั่งเมื่อ 2 เดือนที่ผ่านมา ได้ถูกชักชวนให้เข้าร่วมโครงการเลิกเหล้า กับ อสม. ร่วมกับคนในหมู่บ้านประมาณ 40 คน มาร่วมแลกเปลี่ยนประสบการณ์ และตนได้เป็นตัวแทน 1 ใน 3 ของภาคตะวันออกไปขึ้นเวทีเป็นวิทยากร โดยมีตัวแทนจากทั้งภาครัฐ เอกชน และประชาชนเข้าร่วม
ครั้งนั้นได้เป็นตัวแทนขึ้นเวที เล่าประสบการณ์ของเรา เพื่อให้เป็นประโยชน์กับคนอื่น รู้สึกภูมิใจและดีใจมาก ต่อไปจึงอยากที่จะชวนทุกคนออกมาเลิกเหล้า
นางจรรยา กล่าวว่า ตอนนี้เลิกดื่มมากว่า 2 เดือนแล้ว รู้สึกสุขภาพร่างกายดีขึ้น และไม่คิดที่จะกลับไปดื่มอีก ขณะที่ช่วงเทศกาลซึ่งเป็นช่วงเวลาที่สนุกสนาน และนิยมดื่มแต่ตอนนี้ไม่ได้คิดที่จะดื่มแล้วหาวิธิอื่นสนุกแทนดีกว่า
เมื่อไม่นานมานี้ได้มีโอกาสเข้าร่วมงานฉลองงานหนึ่ง มีโอกาสดื่มอีกครั้ง แต่เราแทบไม่อยากแตะ เพราะคิดว่า หากเราหยิบขึ้นมาดื่มอีก ครั้งนี้จะกลับไปเลิกอีกครั้งคงยาก
นางจรรยา กล่าวว่า สามีและลูกอีก 4 คน เป็นอีกหนึ่งกำลังใจทำให้เราผ่านพ้นปัญหาและอุปสรรคต่างๆ ไปได้ด้วยดีและราบรื่น
เลิกเหล้า เลิกจน
เช่นเดียวกับ น.ส.บี (นามสมมุติ) อายุ 32 ปี กล่าวว่า ส่วนตัวชอบดื่มเบียร์ สังสรรค์กับเพื่อนบ่อยๆ ในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา ออกไปแฮงค์เอาท์กับเพื่อนข้างนอก หากอยู่คนเดียวก็จะซื้อมาดื่มเอง วันละ 2-3 กระป๋อง หมดเงินอย่างน้อยวันละ 160 บาท แต่ละเดือนไม่ต่ำกว่า 4,800 บาท แต่เมื่อไม่กี่เดือนที่ผ่านมาได้ตัดสินใจลดละเลิกเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ทุกชนิด เพราะเป็นห่วงสุขภาพตนเอง และไม่อยากให้คนในครอบครัวกังวลที่เราทำตัวแบบนี้
รวมทั้งเริ่มคิดว่าตัวเองเริ่มอ้วนเพราะดื่มบ่อย ทำให้กินอาหารเยอะกว่าปกติ ช่วงที่ผ่านมาน้ำหนักพุ่งพรวดมาอยู่ที่ 70 กิโลกรัม จาก 55 กิโลกรัม แต่เข้าใจว่าอาจเป็นเพราะอาหารที่เรากินและไม่ชอบออกกำลังกาย
น.ส.บี (นามสมมุติ) กล่าวว่า เริ่มดื่มมาตั้งแต่ เข้าเรียนมหาวิทยาลัย และดื่มมาตลอดปกติจนปัจจุบัน ถึงตอนนี้ก็นับ 10 ปี ได้ สิ่งที่เห็นชัดตอนนี้คือสุขภาพแย่ลง เหนื่อยหอบง่ายเมื่อทำกิจกรรมต่างๆ บางวันหากยังไม่ดื่มจะรู้สึกกระวนกระวาน คิดแค่ขาดน้ำก็ไม่เป็นไร แต่หากไม่ได้ดื่มแอลกอฮอล์แทบอยู่ไม่ได้ แต่ตอนนี้เลิกสนิทแล้วเพราะอยากมีสุขภาพที่ดี
คนไทยดื่มเหล้าลดลง เงินออมเพิ่มขึ้น
ขณะที่สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) ระบุุว่า จากการสำรวจสถิตินักดื่มอันตราย กลุ่มตัวอย่างจำนวนหมื่นคน
ปี 2547 มี 9.1 %
ปี 2552 มี 7.3 %
ปี 2557 มี 3.4 %
ทั้งนี้ คนไทยดื่มเหล้าในระดับ ได้ดื่ม ทรงตัวอยู่ที่ 30 % ส่วนดื่มอันตรายลดลงอย่างเห็นได้ชัด ผลกระทบทางเศรษฐกิจประเมินว่า ถ้านักดื่มปัจจุบัน ออมเงินค่าเหล้า รวมกันจะสามารถสร้างครึ่งหนึ่งของสนามบินสุวรรณภูมิ หรือสร้างทางรถไฟได้ทั่วประเทศภายใน 1 ปี
ขณะที่ โครงการงดเหล้าเข้าพรรษา ปี 2546 ชวนคนลดได้ 19.8 % ส่วนปี 2560 ลดได้ 40 % และเลิกตลอดพรรษา 20 % ขณะที่เหลือผู้ดื่มปกติ 40 % รวมเป็นค่าใช้จ่ายครัวเรือนที่ลดลงจากการงดเหล้าเข้าพรรษา เป็นเงิน 10,1243 ล้านบาท
แท็กที่เกี่ยวข้อง: