วันนี้ (24 ต.ค.2561) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ศาลอาญานัดฟังคำพิพากษาศาลฎีกา คดีที่นายสุเทพ เทือกสุบรรณ อดีตรองนายกรัฐมนตรี เป็นโจทก์ฟ้องนายธาริต เพ็งดิษฐ์ อดีตอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) เป็นจำเลยในความผิดฐานหมิ่นประมาทผู้อื่นโดยการโฆษณา กรณีที่นายธาริตแถลงข่าวกล่าวหานายสุเทพ ว่า เป็นผู้สั่งการไม่ให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติทำสัญญาก่อสร้างอาคารที่ทำการสถานีตำรวจ 396 แห่งเป็นรายภาค แต่กลับให้รวมสัญญาการจัดซื้อจัดจ้างเพียงรายเดียว ทำให้บริษัท พีซีซี ดิเวลล็อปเม้นท์ แอนด์คอนสตรัคชั่น จำกัด เป็นผู้ชนะการประมูลจนเกิดปัญหาที่ไม่สามารถก่อสร้างได้เสร็จทันตามกำหนด ทำให้โจทก์ได้รับความเสียหายเสื่อมเสียชื่อเสียง
วันนี้ ฝ่ายโจทก์มีนายสวัสดิ์ เจริญผล ทีมทนายความเดินทางมาศาล ส่วนนายธาริต จำเลยไม่ได้เดินทางมา โดยมีทนายความผู้รับมอบอำนาจเดินทางมาแถลงต่อศาลว่า นายธาริตมีการป่วยติดเชื้อในลำไส้ไม่สามารถเดินทางมาศาลได้ พร้อมแสดงใบรับรองแพทย์ต่อศาล ทั้งยังยื่นคำร้องขอความเป็นธรรมต่อประธานศาลฎีกาขอให้ส่งเอกสารเพิ่มเติมให้ศาลฎีกาวินิจฉัย
ซึ่ง นายสวัสดิ์ ทนายโจทก์คัดค้านขอให้ศาลอ่านคำพิพากษาในวันนี้ เนื่องจากไม่เชื่อว่าจำเลยป่วยจนไม่สามารถเดินทางมาฟังคำพิพากษาได้ และคัดค้านพยานเอกสารที่จำเลยยื่นเพิ่มเติม เนื่องจากเอกสารที่จำเลยยื่นเพิ่มเติมเกี่ยวกับเรื่องการแถลงข่าวความคืบหน้าคดีก่อสร้างโรงพักของ พล.ต.อ.วัชรพล ประสารราชกิจ ประธาน ป.ป.ช.เป็นเรื่องที่มีอยู่เดิมในชั้นพิจารณาแล้วไม่ใช่เรื่องใหม่
ทั้งนี้ ศาลพิเคราะห์แล้วเห็นว่า เอกสารถ้อยคำที่มีการยื่นเพิ่มเติมดังกล่าวเป็นข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นหลังการพิจารณาของศาลชั้นต้นและศาลชั้นอุทธรณ์ เชื่อว่าศาลฎีกายังไม่ได้พิจารณาเอกสารดังกล่าว เอกสารทั้ง 3 ชุด ที่ยื่นมานั้นเป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องกับโครงการก่อสร้างโรงพักทั้ง 396 แห่ง ซึ่งเป็นมูลเหตุในการฟ้องหมิ่นประมาทในคดีนี้ จึงเห็นควรมีคำสั่งให้ส่งคำร้องของจำเลย รวมถึงถ้อยคำในเอกสารส่งขึ้นให้ศาลฎีกาพิจารณาต่อไป
และเมื่อมีคำสั่งส่งคำร้องแล้วก็ไม่จำเป็นต้องวินิจฉัยว่าจำเลยป่วยจนไม่สามารถเดินทางมาศาลได้หรือไม่ จึงมีคำสั่งให้เลื่อนฟังคำพิพากษาศาลฎีกาออกไป จนกว่าศาลฎีกาจะมีการพิจารณาคำร้องของจำเลยและมีคำสั่งต่อไป
ข่าวที่เกี่ยวข้อง