วันนี้ (17 ธ.ค.2561) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตัวแทนชาวตำบลน้ำสวย อ.เมือง จ.เลย กว่า 50 คน ยื่นหนังสือถึง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ผ่านนายชัยวัฒน์ ชื่นโกสุม ผู้ว่าราชการจังหวัดเลย เพื่อขอลงทะเบียนผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐใหม่ หลังสภาเกษตรอำเภอเมืองเลยพบว่ากลุ่มผู้พิการ ผู้สูงอายุ ผู้ป่วยติดเตียง ที่มีฐานะยากจนกว่า 10,000 คน ไม่สามารถเดินทางไปลงทะเบียนได้ในปี 2560 รายชื่อจึงตกหล่นทำให้ไม่ได้รับสิทธิ
ผู้ว่าราชการจังหวัดเลย กล่าวว่า จะดำเนินการ 2 แนวทาง คือ กรณีที่ชาวบ้านยังไม่ได้รับบัตรสวัสดิการทั้งๆ ที่มีคุณสมบัติ ทางจังหวัดทำหนังสือเรียนเลขาธิการนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีกระทรวงการคลัง เพื่อสั่งการปฏิบัติตามที่กระทรวงการคลังกำหนด และแนวทางที่ 2 เฉพาะชาวตำบลน้ำสวย ขอนัดหมายวันที่ 19 ธ.ค.นี้ เพื่อเปิดรับคำร้อง
ก่อนหน้านี้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี สั่งตรวจสอบผู้ที่ได้รับสิทธิบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ว่าเป็นผู้มีรายได้น้อยจริงหรือไม่ ขณะที่กระทรวงการคลังเตรียมวางกรอบคุณสมบัติผู้ถือบัตรใหม่ ซึ่งวิธีการแก้ไขอาจต้องให้ลงทะเบียนทั้งรายบุคคล และลงทะเบียนเป็นครอบครัว เพื่อให้การคัดกรองเที่ยงตรงมากขึ้น โดยจะมีการเพิ่มเงื่อนไขในการลงทะเบียนผู้มีรายได้น้อยรอบใหม่ปี 2562

คลังทบทวนรายได้บัตรคนจนใหม่
นายอภิศักดิ์ ตันติวรวงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เรียกประชุมผู้บริหารสำนักงานเศรษฐกิจการคลังกรมบัญชีกลาง พร้อมด้วยผู้บริหารธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์ และธนาคารออมสินเพื่อประเมินผลการดำเนินโครงการบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ
นายชาติชาย พยุหนาวีชัย ผู้อำนวยการธนาคารออมสิน กล่าวว่า ยอดผู้ลงทะเบียนกับธนาคาร มีรายได้เพิ่มขึ้น สูงเกินกว่าเป้าหมายที่ตั้งไว้ ขณะที่นายอภิรมย์ สุขประเสริฐ ผู้จัดการธนาคารเพื่อการเกษตและสหกรณ์การเกษตร กล่าวว่า ยอดรวมผู้ลงทะเบียนโครงการสวัสดิการแห่งรัฐ มีรายได้เพิ่มขึ้นเกินกว่าปีละ 1 แสนบาท ซึ่งสูงกว่าหลักเกณฑ์คุณสมบัติด้านรายได้ของโครงการร้อยละ 3 ของผู้ลงทะเบียน

โดยในจำนวนนี้เป็นเกษตร กรประมาณ 4,000 คน แต่รัฐบาลยังไม่ตัดสิทธิ์กลุ่มดังกล่าว เนื่องจากรายได้เกษตรกรที่เพิ่มขึ้น อาจมาจากการเปลี่ยนแปลงตามฤดูกาลของผลผลิต จึงยังคงจ่ายเงินตามสิทธิในบัตรสวัสดิการ ขณะเดียวกัน กระทรวงการคลัง และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง กำลังเร่งออกแบบระบบตรวจสอบผู้ลงทะเบียนในโครงการ ที่แจ้งข้อมูลเท็จ เพื่อตัดสิทธิ์จากโครงการ
ขณะที่นายลวรณ แสงสนิท ผู้อำนวนการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง กล่าวว่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง สั่งให้ สศค.และสถาบันการเงินเฉพาะกิจของรัฐ ทั้ง 2 แห่ง กลับไปทบทวนรายละเอียดรายได้ผู้ลงทะเบียนใหม่อีกครั้ง หลังประเมินว่าอาจมีความคลาดเคลื่อน ก่อนนำข้อมูลไปพิจารณาร่างหลักเณฑ์คุณสมบัติลงทะเบียนโครงการ
ปัจจุบัน มีผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐประมาณ 11.4 ล้านคน แบ่งเป็นผู้มีรายได้ต่ำกว่า 30,000 บาทต่อปี 8.3 ล้านคน และรายได้เกินกว่า 100,000 บาท ต่อปีประมาณ 3 ล้านคน ในจำนวนนี้ยังไม่รวมผู้ผ่านคุณสมบัติรอบใหม่อีก 3.1 ล้านคน ซึ่งอยู่ระหว่างเตรียมการจัดส่งบัตรสวัสดิการคาดว่าจะแล้วเสร็จในปลายปีนี้

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
"คลัง" เตรียมเพิ่มเงื่อนไขรับบัตรคนจน
ผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ สับสนใช้ E-money ในบัตรฯ