วานนี้ (29 ม.ต.62) หลังจากที่ 4 รัฐมนตรีตัดสินใจลาออกก็มีคำถามไปถึง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีว่าจะลาออกหรือไม่ซึ่งได้คำตอบชัดเจนว่า "ไม่ลาออก" เนื่องจากกฎหมายไมได้บอกให้ลาออกและได้ความชัดเจนอีกหนึ่งอย่าง คือ หาก พล.อ.ประยุทธ์ จะกลับมาเป็นนายกฯอีกครั้ง ก็จะเป็นนายกฯ ที่มาจากการเสนอชื่อของพรรคการเมืองไม่เป็นนายกฯคนนอก ซึ่งอาจจะเป็นปัญหามากกว่า
เป็นครั้งแรกที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี พูดชัดว่าจะไม่เป็นนายกรัฐมนตรีคนนอก ซึ่งกระบวนการจะยุ่งยากกว่าเนื่องจากตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 272 ระบุว่า นายกรัฐมนตรีคนนอกจะมาได้ ก็ต่อเมื่อที่ประชุมร่วมกันของรัฐสภาเห็นตรงกันว่า จะไม่แต่งตั้งนายกฯจากบัญชีรายชื่อที่แต่ละพรรคเสนอมา หรือไม่สามารถเลือกนายกฯจากบัญชีรายชื่อพรรคได้ ซึ่งในกรณีนั้นต้องใช้คะแนนเสียงเกินกว่ากึ่งหนึ่งของทั้ง 2 สภา คือ 376 เสียงขึ้นไป "เข้าชื่อเสนอประธานรัฐสภา" ให้เปิดประชุมเพื่อเลือกนายกฯนอกบัญชี หรือ นายกฯคนนอก
หลังจากนั้นยังต้องมีมติด้วยคะแนนเสียง 2 ใน 3 ของสมาชิกทั้งหมด คือ 501 เสียงขึ้นไป (จากส.ส.500+ ส.ว.250 เป็น 750 เสียง) เพื่อมี "มติยกเว้น" ไม่ต้องเสนอชื่อนายกฯจากในบัญชี ซึ่งไม่ใช่เรื่องง่ายเลย
แต่จะตัดสินใจรับคำเชิญไปอยู่ในบัญชีชื่อนายกฯของพรรคการเมืองเมื่อใดนั้น พล.อ.ประยุทธ์ ระบุว่า ยังมีเวลาจนกว่าจะถึงวันรับสมัครส.ส.ในวันที่ 4 - 8 ก.พ.และจะต้องปรึกษากับฝ่ายกฎหมายที่เกี่ยวข้อง เช่น กกต.และสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาว่า จะมีผลทางกฎหมายอย่างไรบ้าง หากรับคำเชิญ เช่น การจัดรายการทางโทรทัศน์ทุกวันศุกร์ การประชุม ครม.สัญจร การลงพื้นที่ต่างจังหวัดต่าง ๆ โดยยืนยันว่า จะทำทุกอย่างให้ถูกต้องตามกฎหมายและต้องตัดสินใจอย่างรอบคอบ
นอกจากนี้ ก็ยืนยันว่าจะไม่มีการปรับ ครม.แม้รัฐมนตรีทั้ง 4 คน จะลาออกจากตำแหน่งไปทำงานการเมืองก็จะมอบหมายให้คณะรัฐมนตรีที่เหลืออยู่ทำหน้าที่แทนไปและในวันพรุ่งนี้ (31 ม.ค.) พรรคพลังประชารัฐ เตรียมประชุมคณะกรรมการบริหารพรรค เพื่อลงมติเลือกนายกรัฐมนตรีในบัญชีของพรรค
มีรายงานว่า สมาชิกพรรคในแต่ละภาคส่งชื่อมาแล้ว 3 คน คือ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ลำดับ 1 นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ ลำดับ 2 และลำดับที่ 3 คือนายอุตตม สาวนายน และในวันนี้ (30 ม.ค.62) พรรคพลังประชารัฐจะแถลงเปิดตัวว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. กทม.ทั้ง 30 เขต ที่สวนเบญจสิริ สุขุมวิทและเปิดนโยบายเปลี่ยนกรุงเทพ 5.0