ในการเลือกตั้งครั้งนี้สนามเลือกตั้ง จ.นครราชสีมา มี 4 พรรคที่พยายามแย่งชิง 14 ที่นั่งคือ พรรคเพื่อไทย พรรคพลังประชารัฐ พรรคชาติพัฒนา และพรรคภูมิใจไทย แม้แต่อนาคตใหม่ ก็พยายามจะสอดแทรกเข้ามาให้ได้เช่นกัน

เป็นครั้งแรกที่นายธนาธร จึงรุ่งเรื่องกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ ลงพื้นที่หาเสียงในภาคอีสาน โดยเลือก จ.นครราชสีมา เป็นจังหวัดแรกในการเปิดตัวผู้สมัคร ส.ส.ของพรรคอนาคตใหม่ ซึ่งครั้งนี้ส่งผู้สมัครลงสู้ศึกเลือกตั้งครบทั้ง 14 เขต และได้รับการต้อนรับจากชาวจังหวัดนครราชสีมาเป็นอย่างดี

การต่อยอดพัฒนาด้านอุตสาหกรรม ขยายพื้นที่ตั้งโรงงาน เพื่อสร้างงานและสร้างอาชีพคือนโยบายที่พรรคอนาคตใหม่ คาดหวังว่าจะตอบโจทย์ชาวจังหวัดนครราชสีมา และนำมาใช้ในการหาเสียง

ไม่ต่างจากพรรคการเมืองขนาดใหญ่ที่ต่างเร่งลงพื้นที่หาเสียงเพื่อขอคะแนนทั้งพรรคเพื่อไทย พรรคพลังประชารัฐ พรรคชาติพัฒนาและพรรคภูมิใจไทย ซึ่งส่วนใหญ่ยังใช้นโยบายประชานิยมในการหาเสียง ทั้งการเพิ่มเงินในบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ขยายเมืองนครราชสีมาให้เป็นศูนย์กลางคมนาคม เมืองกีฬาและท่องเที่ยว และแก้ปัญหาปากท้องรวมถึงราคาผลผลิตการเกษตรตกต่ำ ซึ่งชาวจังหวัดนครราชสีมาอยากเห็นนักการเมืองทำได้จริงอย่างที่หาเสียงไว้

การเน้นเปิดตัวผู้สมัครและชูนโยบายของแต่ละพรรคคือกลยุทธที่ถูกนำมาใช้ ในช่วงโค้งสุดท้ายของการหาเสียงเลือกตั้ง ซึ่งนักวิชาการมองว่าสนามเลือกตั้งจังหวัดนครราชสีมา ปัจจัยที่จะมีผลต่อการตัดสินใจของประชาชนคือตัวบุคคล รองลงมาคือนโยบายพรรคและปัจจัยเรื่องเงิน
จ.นครราชสีมา มีผู้สมัคร ส.ส.จำนวน 511 คน จาก 54 พรรคการเมือง มีจำนวน ส.ส.ได้ 14 คน ซึ่งมากเป็นอันดับ 2 รองจากกรุงเทพฯ การเลือกตั้งครั้งนี้นักวิชาการมองว่าจะเป็นการแบ่งที่นั่งของ 4 พรรคการเมืองใหญ่ คือพรรคพลังประชาชรัฐ เพื่อไทย ชาติพัฒนา และพรรคภูมิใจไทย