วันนี้ (18 ก.พ.2562) สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) รายงานว่า สำนักงบประมาณได้จัดสรรงบประมาณให้สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ดำเนินการจัดการเลือกตั้ง สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) สมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) และระดับท้องถิ่นรวมกว่า 6,100 ล้านบาท พร้อมกับจัดสรรงบประมาณสำหรับเป็นค่าใช้จ่ายในการหาเสียงของผู้สมัครและพรรคการเมืองทั้ง 104 พรรคการเมือง รวมใช้งบประมาณดำเนินการทั้งสิ้นกว่า 20,000-30,000 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 0.1-0.2 ของ จีดีพี
นายทศพร ศิริสัมพันธ์ เลขาธิการ สศช. กล่าวว่า สศช.กำลังติดตามและประเมินผลจากสถานการณ์ทางการเมืองหลังการเลือกตั้งอย่างใกล้ชิด ซึ่งขณะนี้ถือเป็นปัจจัยเสี่ยงที่กระทบต่อการเติบโตทางเศรษฐกิจปีนี้
สอดคล้องกับมุมมองของ นายสแตนลีย์ คัง ประธานหอการค้านานาชาติ กล่าวว่า นักลงทุนต่างชาติกำลังติดตามสถานการณ์การเลือกตั้งเเละการจัดตั้งรัฐบาลชุดใหม่ ซึ่งการเข้าสู่ระบอบประชาธิปไตยช่วยสร้างความมั่นใจให้กับนักลงทุน แต่ก็ต้องดูว่าหลังการเลือกตั้งเเล้วรัฐบาลใหม่จะเดินหน้าไปในทิศทางไหน
ประธานหอการค้านานาชาติ กล่าวว่า นักลงทุนที่มาลงทุนในไทยยังคงขยายตัวและมองโอกาสทางธุรกิจในระยะยาว ดังนั้นจึงต้องการให้รัฐบาลใหม่เร่งโครงการหลัก เช่น EEC และเจรจาความร่วมมือระหว่างประเทศด้านเศรษฐกิจ เช่น CPTPP และ FTA กับประเทศต่างๆ เพื่อยกระดับศักยภาพเศรษฐกิจของไทย ภายใต้ความกดดันของเศรษฐกิจโลกในปัจจุบัน
แท็กที่เกี่ยวข้อง: