เขตเลือกตั้งหลายเขตทั้งใน จ.อุดรธานี และร้อยเอ็ด ขึ้นชื่อว่าเป็นฐานเสียงของ ส.ส.เพื่อไทย ที่ครองเก้าอี้มาอย่างยาวนาน แต่การเลือกตั้งครั้งนี้ ปฏิเสธไม่ได้ว่าพรรคพลังประชารัฐ งัดกลยุทธ์ ดึงนักการเมืองท้องถิ่น ที่ทำงานการเมือง มีฐานคะแนนนิยม มาสู้ วัดใจประชาชนที่ต้องตัดสินใจเลือกคนจากผลงานหรือพรรคที่สังกัด
นางอาภรณ์ สาราคำ ภรรยานายขวัญชัย ไพรพนา อดีตประธานชมรมคนรักอุดร คือตัวเลือกที่พรรคเพื่อไทยส่งลงสนามเลือกตั้ง เขต 4 จ.อุดรธานี ด้วยหวังว่าจะสามารถดึงคะแนนเสียงจากชาวอุดรธานี เพื่อสู้กับคู่แข่งไฟแรงจากพรรคภูมิใจไทย คือ นายอุทัย แสนแก้ว
8 เขตเลือกตั้งของ จ.อุดรธานี ถือเป็นฐานเสียงสำคัญของพรรคเพื่อไทย นอกจากเขต 4 พรรคเพื่อไทยได้อดีต ส.ส. ลงชิงชัยทุกสนาม ทำให้ถือแต้มต่อเหนือคู่แข่งพรรคอื่น
พลังประชารัฐสู้ฐานเสียงเพื่อไทย จ.ร้อยเอ็ด
แตกต่างจากที่ จ.ร้อยเอ็ด เขตเลือกตั้งที่ 2 เขตนี้ มีเต็งหนึ่ง คือ นายฉลาด ขามช่วง พรรคเพื่อไทย ที่แม้ครองคะแนนจากชาวร้อยเอ็ดมาหลายสมัย ก็ต้องจับตากระแสความนิยมต่อนางรัชนี พลซื่อ จากพรรคพลังประชารัฐ อดีตนายก อบจ. และอดีต ส.ส.1 สมัยที่มีฐานเสียงจากกลุ่มสตรีแม่บ้าน และ อสม.
ขณะที่ประชาชนบางส่วนยังติดตามการหาเสียง เพื่อใช้ตัดสินใจ และหวังว่าแต่ละพรรคการเมืองจะชูนโยบายที่สามารถทำได้จริง เพื่อแก้ปัญหาปากท้องและความยากจน
อีก 1 เขต ที่น่าจับตาของจังหวัดร้อยเอ็ด คือ เขต 3 นายเอกภาพ พลซื่อ พรรคพลังประชารัฐ สามีนางรัชนี แม้อดีตจะเคยสอบตก และเคยถูกตัดสิทธิ์ทางการเมือง แต่ครั้งนี้หวนลงเวทีแข่งขัน เขาทำการบ้านมาดี ลงพื้นที่สร้างคะแนนนิยม และชูแนวทางการหาเสียง เพื่อให้ชาวบ้านเลือกคนจากผลงาน มากกว่ามองที่ตัวพรรค ถือเป็นอาวุธสำคัญที่พรรคพลังประชารัฐนำมาเจาะฐานเสียงเพื่อไทยที่ครองที่นั่ง ส.ส.ร้อยเอ็ด มาอย่างยาวนาน