วันนี้ (6 มี.ค.2562) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำนักงานศาลรัฐธรรมนูญ ได้จัดเตรียมความพร้อมของสถานที่ในการอ่านคำวินิจฉัยคำร้องคดียุบพรรคไทยรักษาชาติที่จะเกิดขึ้นในวันที่ 7 มีนาคมนี้ เวลา 15.00 น. ซึ่งการอ่านคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญครั้งนี้ได้สงวนสิทธิการขอเข้าฟังการคำวินิจฉัยในห้องพิจารณา
สำหรับการรักษาความปลอดภัยภายในศาลรัฐธรรมนูญนั้นเป็นไปอย่างเข้มข้นกว่าทุกครั้งที่ผ่านมา โดยได้ประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจมารักษาความปลอดภัยจำนวน 2 กองร้อย จากกองบังคับการตำรวจนครบาล 8-9 ทั้งเจ้าหน้าที่ตำรวจท้องที่และเจ้าหน้าที่ตำรวจนครบาล รวมถึงหน่วยเก็บกู้และตรวจพิสูจน์วัตถุระเบิด พร้อมสุนัขตำรวจที่จะเข้ามาตรวจความเรียบร้อย พร้อมประกาศปิดพื้นที่บริเวณลานจอดรถด้านหน้า
ขณะที่ภายในบริเวณโถงอาคาร สำนักงานศาลรัฐธรรมนูญ เตรียมการถ่ายทอดสัญญาณจากห้องพิจารณามาที่จอโทรทัศน์วงจรปิดที่จะติดตั้ง 5 จุด ในบริเวณลานกิจกรรมของศูนย์ราชการอาคารเอ โดย 4 จุดได้จัดเตรียมไว้ให้สื่อมวลชน ส่วนอีกหนึ่งจุดได้เตรียมให้ประชาชนที่สนใจสามารถรับชมการอ่านคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญได้
ทั้งนี้ การเดินทางเข้าออกสำหรับผู้ที่มาฟังการพิจารณาวินิจฉัยคดียุบพรรคไทยรักษาชาติ จะต้องเข้าที่บริเวณประตูฝั่งกระทรวงยุติธรรม หรือ ประตูE1 ฝั่งร้านกิจกรรม ส่วนบุคคลภายนอกจะไม่ได้รับอนุญาตให้เข้ามายังพื้นที่ของศาลรัฐธรรมนูญ โดยบริเวณทางด้านหน้าของศาลรัฐธรรมนูญที่ติดกับถนนแจ้งวัฒนะ จะไม่อนุญาตให้ใครขึ้นมา พร้อมกันนี้ ยังได้สั่งให้ปิดประตูหน้าสำนักงานศาลรัฐธรรมนูญ และให้เจ้าหน้าที่ของศาลให้เข้าช่องทางเดียว คือประตูฝั่งลานกิจกรรมเท่านั้น
มีรายงานว่า ผู้ร้องและผู้ถูกร้องที่จะเข้ารับฟังการอ่านคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ ทาง กกต.ได้มอบหมายให้ พ.ต.อ.จรุงวิทย์ ภุมมา เลขาธิการคณะกรรมการการเลือกตั้ง เป็นผู้มาฟังการอ่านคำวินิจฉัย ขณะที่ทางพรรคไทยรักษาชาติทั้งหัวหน้าพรรคและคณะกรรมการบริหารพรรคทั้ง 14 คน จะเดินทางมาร่วมรับฟังการวินิจฉัยด้วยเช่นกัน แต่จะมีเพียง 6 คนเท่านั้นที่เข้าไปฟังในห้องพิจารณาคดีประกอบไปด้วย ร.ท.ปรีชาพล พงษ์พานิช หัวหน้าพรรค, นายมิตติ ติยะไพรัช เลขาธิการพรรค พร้อมกับทีมทนาย นายสุรชัย ชินชัย และนายนรวิชญ์ หล้าแหล่ง
นอกจากนี้ ยังมีกรรมการบริหารพรรคไทยรักษาชาติอีก 2 คน ที่ไม่ได้เปิดเผยชื่อ รวมถึงนายจาตุรนต์ ฉายแสง และนายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ พร้อมแกนนำพรรคจะมาร่วมรับฟังการวินิจฉัยที่ศาลรัฐธรรมนูญด้วย