ค้นหา
ทีวีออนไลน์
เว็บไซต์ในเครือ
เว็บไซต์บริการ

กกต.คาดเสนอพิจารณาคดีโต๊ะจีน "พลังประชารัฐ" สัปดาห์หน้า

การเมือง
8 มี.ค. 62
15:51
12,708
Logo Thai PBS
 กกต.คาดเสนอพิจารณาคดีโต๊ะจีน "พลังประชารัฐ" สัปดาห์หน้า
เลขาฯ กกต.เผยอยู่ระหว่างรวบรวมพยานหลักฐาน คดีการระดมทุนโต๊ะจีนของพรรคพลังประชารัฐ ชี้มูลเหตุที่จะทำให้ยุบพรรคได้คือกรณีการรับเงินจากบริษัทต่างชาติเท่านั้น คาดเสนอที่ประชุมพิจารณาสัปดาห์หน้า

วันนี้ (8 มี.ค.62) พ.ต.อ.จรุงวิทย์ ภุมมา เลขาธิการคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) แถลงชี้แจงขั้นตอนการดำเนินการของ กกต.หลังศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยยุบพรรคไทยรักษาชาติ ซึ่งในช่วงนี้เป็นช่วงของการใช้สิทธิ์เลือกตั้งล่วงหน้านอกราชอาณาจักรระหว่างวันที่ 4 - 10 มี.ค.62 ซึ่งบัตรได้มีการจัดพิมพ์ไปแล้ว

ล่าสุด ได้มีการแจ้งไปยังสถานกงสุลในต่างประเทศ 97 ประเทศ ประชาสัมพันธ์เรื่องของการกาบัตรเลือกตั้งกรณีผู้สมัครที่ถูกถอนสิทธิ์เลือกตั้งจะกลายเป็นบัตรเสียซึ่งไม่เพียงแค่พรรคไทยรักษาชาติเท่านั้น ยังมีผู้สมัครรายอื่นที่ศาลฎีกามีคำสั่งเพิกถอนสิทธิ์เลือกตั้งด้วย

พร้อมกันนี้ระบุว่า กรรมการบริหารพรรคไทยรักษาชาติ จำนวน 13 คน เป็นผู้ที่ถูกศาลเพิกถอนสิทธิ สมัครรับเลือกตั้ง เป็นเวลา 10 ปี ส่วนอีก 1 คน ได้ลาออกไปก่อนหน้าวันที่ 8 ก.พ.โดยคณะกรรมการบริหารที่ถูกเพิกถอนสิทธิจะไม่สามารถไปสมัครเป็นสมาชิกพรรคใดได้

ส่วนสมาชิกคนอื่นของพรรคสามารถย้ายสังกัดและขึ้นรูปในป้ายหาเสียงได้ รวมถึงไปเป็นผู้ช่วยหาเสียงได้ตามกฎหมาย พร้อมกันนี้ย้ำว่าพรรคไทยรักษาชาติจะต้องยุติการดำเนินการต่าง ๆ เกี่ยวกับการเมืองรวมถึง ป้ายข้อความการหาเสียงในช่องทางต่างๆ

พ.ต.อ.จรุงวิทย์ ระบุด้วยว่า กรณีผู้สมัครที่ถูกถอนชื่อออกจากการเลือกตั้งในครั้งนี้ จะมีการติดป้ายประชาสัมพันธ์ให้รับทราบที่บริเวณหน้าหน่วยเลือกตั้ง ทั้งนี้ การดำเนินคดีพรรคไทยรักษาชาติ ที่รวดเร็วเนื่องจากมีกหลักฐานครบถ้วนซึ่งเป็นหลักฐานเอกสารของพรรคไทยรักษาชาติในวันที่ยื่นรายชื่อผู้เสนอเป็นนายกรัฐมนตรี ปรากฏเป็นพยานหลักฐาน ที่ กกต.มีมติเห็นว่า เป็นพยานหลักฐานอันควรเชื่อได้ว่า ดำเนินการเสนอยุบพรรคตามขั้นตอนของกฎหมาย

ส่วนกรณีของพรรคพลังประชารัฐ ขณะนี้อยู่ระหว่างการรวบรวมพยานหลักฐาน โดยกรณีการระดมทุนโต๊ะจีนของพรรคพลังประชารัฐในวันที่ 19 ธ.ค.61 มูลเหตุที่จะทำให้ยุบพรรคได้คือกรณีการรับเงินจากบริษัทต่างชาติเท่านั้น โดยในสัปดาห์หน้าคาดว่า จะนำเสนอต่อที่ประชุมคณะกรรมการพิจารณาได้ ส่วนกรณีที่มีการตั้งข้อสังเกตว่ามีการใช้อำนาจ หน่วยงานมาร่วมบริจาคนั้น ต้องพิจารณาดูข้อกฎหมายในประเด็นที่ต่างกัน

นอกจากนี้ เลขาธิการ กกต.ยังได้อธิบายถึงการใช้สิทธิเลือกตั้งล่วงหน้านอกเขตและในเขตในวันที่ 17 มี.ค.นี้ สำหรับผู้ที่ลงทะเบียนขอใช้สิทธิ์ไว้ ว่าสถานที่ในการใช้สิทธิ์ลงคะแนนจะเป็นโรงเรียน ซึ่งจะแยกแบ่งเป็นภาค จังหวัด และเขตเลือกตั้ง โดยผู้ใช้สิทธิจะต้องพกบัตรประชาชนเพื่อนำไปแสดงตน เมื่อกาบัตรเสร็จแล้วเจ้าหน้าที่จะนำใส่ซองเพื่อรวบรวมก่อนจะคัดแยกส่งไปยังหน่วยเลือกตั้ง

พร้อมกันนี้ ได้ยืนยันถึงการอำนวยความสะดวกของสำนักงานตำรวจแห่งชาติที่สนับสนุนภารกิจเรื่องของการจราจร พร้อมแสดงถึงความพร้อมแผนรับรองในการจัดเลือกตั้งในพื้นที่ 3 จังหวัดใช้แดนภาคใต้

ข่าวที่เกี่ยวข้อง