วันนี้ (9 มี.ค.2562)คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ลงพื้นที่เขตบึงกุ่ม กรุงเทพมหานคร แนะนำตัวผู้สมัคร ส.ส.ของพรรคเพื่อไทย พร้อมร่วมพูดคุยกับกลุ่มผู้สูงอายุในชุมชนและยืนยันว่าจะปรับปรุงโครงการ 30 บาทรักษาทุกโรคยุคใหม่ โดยยึดหลักการที่ว่าต้องแข็งแรงก่อนแก่ มีสุขภาพดีก่อนป่วย
คุณหญิงสุดารัตน์ ยังระบุถึงการเลือกสมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) ซึ่งปรากฏเป็นข่าวมีบุคคลใกล้ชิด พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชาและพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ได้รับเลือกว่า เป็นเรื่องที่ต้องย้อนถามกลับไปถึงกระบวนการเลือก ส.ว.ว่าถูกต้องหรือไม่ พร้อมเชื่อว่า ส.ว.จะกลับมาเลือก พล.อ.ประยุทธ์ และสถานการณ์ขณะนี้ยิ่งสะท้อนภาพการเมือง 2 ขั้ว คือขั้วที่สนับสนุน พล.อ.ประยุทธ์ และไม่สนับสนุน
ก็ไม่เหนือความคาดเดา เพราะว่า พล.อ.ประยุทธ์ ในฐานะหัวหน้า คสช. ก็ตั้ง พล.อ.ประวิตร ในฐานะรองหัวหน้า คสช. ไปให้เลือก ส.ว. ก็เลือกชื่อมาอย่างที่เห็นว่าเป็นบรรดานายทหารและคนใกล้ชิดของ พล.อ.ประวิตร และพล.อ.ประยุทธ์
โดยระหว่างการลงพื้นที่หาเสียงย่านบึงกุ่ม คุณหญิงสุดารัตน์ได้พบกับนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ที่นำทีมผู้สมัครหาเสียงในเขตเดียวกัน โดยทั้งคู่ได้เข้ามาทักทายและถ่ายภาพร่วมกัน ท่ามกลางประชาชนที่สนับสนุนทั้ง 2 พรรค
ด้านนายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ เลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ และนายโกวิทย์ ธารณา อดีตผู้สมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคประชาธิปัตย์ ที่ย้ายมาสนับสนุนพรรคพลังประชารัฐ ลงพื้นที่เขตบางแค กรุงเทพมหานคร ช่วยผู้สมัคร ส.ส.ของพรรคหาเสียง
นายสนธิรัตน์เชื่ิอมั่นว่า พรรคจะได้ ส.ส.ทั้งแบบแบ่งเขตและบัญชีรายชื่ออย่างน้อย 150 คน โดยอ้างอิงจากผลสำรวจของพรรค และพรรคยังมีกลยุทธ์เรียกความสนใจจากประชาชน โดยชู พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นนายกรัฐมนตรี ทำงานเพื่อประเทศชาติต่อ แม้จะยอมรับว่าการที่ พล.อ.ประยุทธ์ ไม่ได้มาร่วมหาเสียงและดีเบต จะทำให้พรรคเสียเปรียบ โดยสัปดาห์หน้าพรรคจะแถลงนโยบายเพิ่มเติมอีกครั้ง