นางจาซินดา อาร์เดิร์น นายกรัฐมนตรีนิวซีแลนด์ ให้คำมั่นว่าจะแก้กฎหมายควบคุมอาวุธปืนของนิวซีแลนด์ โดยคณะรัฐมนตรีจะหารือรายละเอียดกันในวันนี้ (18 มี.ค.) ซึ่งคาดว่าอาจรวมถึงการห้ามครอบครองอาวุธปืนกึ่งอัตโนมัติ ที่มือปืนใช้ก่อเหตุกราดยิงมัสยิด 2 แห่งในนครไครสต์เชิร์ช จนทำให้มีผู้เสียชีวิตถึง 50 คน
ด้านเจ้าของร้านขายปืน Gun City เปิดเผยว่า ผู้ก่อเหตุเคยซื้อปืน 4 กระบอกและกระสุนปืนจากทางร้าน ผ่านช่องทางออนไลน์อย่างถูกต้องตามกฎหมาย ระหว่างเดือน ธ.ค.2560 - มี.ค.2561 แต่ทางร้านไม่ได้เป็นผู้ขายอาวุธปืนกึ่งอัตโนมัติที่ใช้ก่อเหตุให้แก่มือปืนแต่อย่างใด ขณะที่ห้างร้านและธุรกิจต่างๆในนครไครสต์เชิร์ช เริ่มเปิดให้บริการตามปกติ
ส่วนที่ประเทศออสเตรเลีย ตำรวจหน่วยปราบปรามการก่อการร้ายออสเตรเลียเข้าตรวจค้นบ้าน 2 หลังในรัฐนิวเซาท์เวลส์ เพื่อหาหลักฐานสนับสนุนการสอบสวนเหตุกราดยิงของตำรวจนิวซีแลนด์ พร้อมเปิดเผยว่าครอบครัวของผู้ก่อเหตุชาวออสเตรเลียให้ความร่วมมือในการสอบสวนเป็นอย่างดี
ดำเนินคดีผู้ครอบครอง-แชร์วิดีโอเหตุกราดยิง
ชาวนิวซีแลนด์ถูกศาลตั้งข้อหาหลังเผยแพร่วิดีโอเหตุกราดยิงผ่านช่องทางออนไลน์ ซึ่งเจ้าหน้าที่ินิวซีแลนด์ระบุว่า การครอบครองหรือแชร์วิดีโอความยาว 17 นาที ที่ผู้ก่อเหตุถ่ายทอดสดทางออนไลน์ระหว่างเหตุกราดยิงที่มัสยิด 2 แห่งในนครไครสต์เชิร์ช จัดเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมาย
มีรายงานว่า วัยรุ่นชาวนิวซีแลนด์วัย 18 ปี ถูกศาลตั้งข้อหาจากการเผยแพร่วิดีโอดังกล่าว รวมถึงข้อหาปลุกปั่นให้เกิดความรุนแรงจากการโพสต์ภาพถ่ายของมัสยิด พร้อมข้อความที่ระบุว่า "โจมตีเป้าหมายสำเร็จแล้ว" ซึ่งเขาอาจถูกลงโทษจำคุกสูงสุดถึง 14 ปี
บริษัทเฟซบุ๊ก เปิดเผยว่า เจ้าหน้าที่ลบวิดีโอไปมากกว่า 1.5 ล้านคลิปทั่วโลกภายในเวลา 24 ชั่วโมงแรกหลังเกิดเหตุกราดยิง นอกจากนี้ทางบริษัทยังลบวิดีโออื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ดังกล่าวแม้ว่าจะไม่มีภาพความรุนแรง เนื่องจากไม่ต้องการให้เกิดผลกระทบต่อผู้ที่เกี่ยวข้องในเหตุสะเทือนขวัญที่เกิดขึ้น
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
กราดยิงมัสยิด 2 แห่งในนิวซีแลนด์ เสียชีวิตแล้ว 40 คน
ผู้ต้องสงสัยกราดยิงมัสยิดเมืองไครสต์เชิร์ชขึ้นศาล
ตร.นิวซีแลนด์ค้นบ้านผู้ต้องสงสัยกราดยิงมัสยิด