วันนี้ (22 มี.ค.2562) นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย เปิดเผยว่า ตามที่นางเบญญา นันทขว้าง ผู้สมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรครวมพลังประชาชาติไทย (รปช.) โพสต์ข้อความในเฟซบุ๊กว่า “ถ้าฝ่าย ปชต.กงเต๊กชนะเลือกตั้ง ที่สุดก็จะปฏิวัติอีกรอบ” นั้น การใช้คำว่า “ปฎิวัติ” นั้นเป็นถ้อยคำที่แสลงที่สุดในระบอบประชาธิปไตยฯ เป็นการใช้ถ้อยคำที่ต้องการที่จะสื่อให้กับสาธารณะ หรือผู้มีสิทธิเลือกตั้งได้หวาดกลัวต่อการออกไปใช้สิทธิในวันที่ 24 มี.ค.นี้ ว่าหากผู้ใช้สิทธิเลือกตั้งไม่เลือกฝ่ายตน หรือพรรคการเมืองฝ่ายตน แล้วไปเลือกแต่ฝ่ายที่อ้างประชาธิปไตย (ปชต.) ก็อาจนำไปสู่การปฏิวัติอีกได้
รวมทั้งกรณีนายสุเทพ เทือกสุบรรณ ผู้ร่วมก่อตั้งพรรครวมพลังประชาชาติไทย ปราศรัยที่ จ.ปัตตานี โดยขู่ผู้มีสิทธิเลือกตั้งว่า “ถ้าเลือกพรรคเพื่อ...เจอกันราชดำเนิน” นั้น คำปราศรัยดังกล่าวที่ อาจถือได้ว่าเป็นการข่มขู่ประชาชนหรือไม่ การพูดเช่นนี้คือการไม่เคารพเสียงส่วนใหญ่ของประชาชนหรือไม่ การเอาเงื่อนไขที่จะไปที่ราชดำเนิน คือการสร้างสถานการณ์เพื่อนำไปสู่การยึดอำนาจอีกรอบใช่หรือไม่
นายศรีสุวรรณ เห็นว่าการกระทำดังกล่าวของสมาชิกพรรครวมพลังประชาชาติไทยทั้ง 2 คน อาจเข้าข่ายความผิดตาม ม.93 (5) ของ พ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร 2561 ซึ่งมีโทษตาม ม.159 ต้องระวางโทษจําคุกตั้งแต่ 1-10 ปี หรือปรับตั้งแต่ 20,000-200,000 บาท หรือทั้งจําทั้งปรับ และให้ศาลสั่งเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งของผู้นั้นมีกําหนด 20 ปี นอกจากนั้น ยังอาจเข้าข่ายความผิดตาม ม.92(2) ของ พ.ร.ป.พรรคการเมือง 2560 อีกด้วย ซึ่งมีโทษถึงขั้น “ยุบพรรค รปช.” ต่อไปได้
สมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย จึงจะนำคำร้องพร้อมพยานหลักฐานไปยื่นต่อคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เพื่อพิจารณาไต่สวน วินิจฉัย และดำเนินการยื่นศาลรัฐธรรมนูญเพื่อสั่งยุบพรรครวมพลังประชาชาติไทย โดยจะเดินทางไปยื่นคำร้องในช่วงบ่ายวันนี้ ที่สำนักงาน กกต. ชั้น 1 ศูนย์ราชการฯ อาคาร B ถนนแจ้งวัฒนะ หลักสี่ กรุงเทพฯ