วันนี้ (26 มี.ค.62) เวลา 10.00 น. นายรณวิต หล่อเลิศสุนทร รองหัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ นายไกลก้อง ไวทยการ นายทะเบียนพรรค และนายพิจารณ์ เชาวพัฒนวงศ์ ว่าที่ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคอนาคตใหม่ เดินทางเข้ายื่นเอกสารต่อ กกต.เพื่อขอให้ กกต.เปิดเผยข้อมูลและตัวเลขของการใช้สิทธิออกเสียงลงคะแนนในการเลือกตั้ง ส.ส.รายหน่วยเลือกตั้งทั่วประเทศ เพื่อให้ประชาชนและพรรคการเมืองต่าง ๆ ได้มีส่วนร่วมในการตรวจสอบความถูกต้องของการใช้สิทธิออกเสียงของประชาชน ทำให้การเลือกตั้งมีความสุจริตเที่ยงธรรมมากยิ่งขึ้น
นายไกลก้อง ไวทยการ นายทะเบียนพรรคอนาคตใหม่ และผู้ที่ผลักดันนโยบายรัฐเปิดเผย หรือ Open Data กล่าวว่า พรรคอนาคตใหม่ได้ขอใช้สิทธิของประชาชนตาม พ.ร.บ.ข้อมูลข่าวสารฯ พ.ศ.2540 เพื่อขอข้อมูลตัวเลขผู้มีสิทธิออกเสียง ผู้มาใช้สิทธิออกเสียง จำนวนบัตรเลือกตั้งที่แต่ละหน่วยได้รับ จำนวนบัตรเสีย และคะแนนผู้สมัครแต่ละคน เป็นรายหน่วยจากทาง กกต.ซึ่งตนคิดว่าไม่เป็นการสร้างภาระแก่ กกต.มากจนเกินไป
เนื่องจากการเลือกตั้งครั้งนี้ กกต.ได้ทำการรวบรวมตัวเลขเหล่านี้เอาไว้โดยทางอิเล็กทรอนิกส์ผ่านแอปพลิเคชันเรียบร้อยแล้ว เหลือเพียงแต่การนำข้อมูลมาเปิดเผยให้สาธารณชนได้ร่วมตรวจสอบเท่านั้น รวมถึงกรณีที่เก็บค่าบริการจากสื่อมวลชนที่ลิงค์ข้อมูลจากเว็บไซค์ กกต.ไปนำเสนอแบบเรียลไทม์ อยากให้สื่อมวลชนตรวจสอบเพราะ กกต.มีงบประมาณในการจัดการเลือกตั้งครั้งนี้แล้วไม่ควรมีการเก็บค่าบริการเพิ่มเติมจากสื่อมวลชน
แม้ว่าพรรคอนาคตใหม่จะได้จำนวน ส.ส.เกินคาด แต่จากการรวบรวมข้อร้องเรียนจากประชาชนทั่วประเทศทั้งทางโทรศัพท์ อินเทอร์เน็ต และจากประชาชนที่เดินมาร้องเรียนที่พรรค พบว่ามีความพยายามทำให้คะแนนของพรรคอนาคตใหม่ลดลงอย่างมีนัยสำคัญและมีลักษณะเป็นรูปแบบคล้ายกันทั่วประเทศโดยอาจมีการที่กรรมการประจำหน่วยเลือกตั้งพูดคุยอย่างไม่เป็นทางการกับประชาชนและสร้างความเข้าใจผิดต่อผู้มีสิทธิออกเสียงว่า หากเลือกพรรคอนาคตใหม่แล้วจะกลายเป็นบัตรเสียเพราะพรรคอนาคตใหม่ถูกยุบไปแล้ว หรือการนำกระดาษไปปิดทับเอกสารประชาสัมพันธ์ข้อมูลรายละเอียดของผู้สมัครจากพรรคอนาคตใหม่ หรือการที่กรรมการประจำหน่วยเลือกตั้งพิจารณาว่าบัตรใดเป็นบัตรดีบัตรเสียตอนเปิดหีบนับคะแนนโดยไม่ใช้มาตรฐานเดียวกันกับทุกพรรคการเมือง มีการเอื้อประโยชน์ให้บางพรรค และมีการทำให้บัตรที่เลือกพรรคอนาคตใหม่กลายเป็นบัตรเสียมากเป็นพิเศษ
ดังนั้น การเปิดเผยข้อมูลการใช้สิทธิออกเสียงเลือกตั้งของประชาชนรายหน่วยเพื่อให้สาธารณชนร่วมตรวจสอบนั้นถือเป็นทางหนึ่งที่จะช่วยลดโอกาสในการทุจริตเลือกตั้งได้