วันนี้ 19 เม.ย.62 นายอภิศักดิ์ ตันติวรวงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า กรมสรรพากรต้องการแก้ไขปัญหาการหลบเลี่ยงภาษีของผู้ที่มีเงินฝากสูงเกิน 4,000,000 ล้านบาท ที่จะมีรายได้จากดอกเบี้ยเกิน 20,000 บาทต่อปี ซึ่งที่ผ่านมามีสถาบันการเงินบางแห่งเอื้อประโยชน์ให้ลูกค้ารายใหญ่หลบเลี่ยงภาษี ณ ที่จ่าย ร้อยละ 15 ด้วยการปิดบัญชีเมื่อรายได้จากดอกเบี้ยใกล้ถึง 20,000 บาท ก่อนไปเปิดบัญชีใหม่ และกระจายแยกบัญชีออกจากกัน ดังนั้นการดำเนินการนี้จะกระทบกับผู้มีบัญชีออมทรัพย์รายใหญ่มากกว่าประชาชนรายย่อย โดยปัจจุบันมีการจัดเก็บภาษีดังกล่าวได้ 1,000 ล้านบาท หากมีประกาศใหม่นี้จะทำให้จัดเก็บภาษีเพิ่มขึ้นได้อีก 1 เท่าตัว
ด้านนายปิ่นสาย สุรัสวดี โฆษกกรมสรรพากร ระบุว่า หลังจากนี้สถาบันเงินจะต้องจัดส่งข้อมูลดอกเบี้ยของบัญชีออมทรัพย์ของลูกค้ามาให้กรมสรรพากรผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ ปีละ 2 ครั้ง ในช่วงเดือน พ.ค. และ พ.ย. เพื่อให้กรมสรรพากรนำรายได้จากดอกเบี้ยดังกล่าวมาคำนวณภาษีและเสียภาษีในช่วงสิ้นปี
ทั้งนี้ระหว่างนี้ขอให้ประชาชนที่มีบัญชีเงินฝากแสดงความยินยอมกับสถาบันการเงิน ให้ส่งข้อมูลทางบัญชีให้กรมสรรพากรรับรู้ เพราะหากไม่ดำเนินการผู้ฝากทุกคนจะมีภาระการเสียภาษี ณ ที่จ่าย จากรายได้จากดอกเบี้ยร้อยละ 15 ทันทีโดยอัตโนมัติ แม้รายได้ดังกล่าวไม่เกิน 20,000 บาท ก็ตาม และค่อยไปขอคืนภาษีดังกล่าวในช่วงปลายปีได้