วันนี้ (10 พ.ค.2562) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังมีกระแสว่าหลายพรรคกดดันให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ปล่อยกระทรวงเกรดเอ ซึ่งดูจะขัดกับแนวโน้มที่ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม อาจจะกลับมาร่วมรัฐบาลอีกครั้ง ซึ่งพล.อ.ประวิตร ย้ำคำตอบกับสื่อมวลชนว่า ไม่รู้ และเมื่อถามถึงเงื่อนไขของการกลับมารับตำแหน่งอีกครั้งเกี่ยวข้องกับเรื่องสุขภาพหรือไม่ พล.อ.ประวิตร ก็ตอบว่าไม่เกี่ยว
ยังไม่รู้ เพราะว่านายกฯ ยังไม่ได้นายกฯ เลย นายกฯ ยังไม่ประสาน ยังไม่พูดด้วยเลย จะไปรู้ได้ยังไง
และแม้จะยืนยันถึงการเดินหน้าจัดตั้งรัฐบาลของพรรคพลังประชารัฐ แต่นายสมศักดิ์ เทพสุทิน แกนนำพรรค และ ส.ส.ของพรรค กลับปฏิเสธที่จะชี้แจงกรณีการจัดสรรตำแหน่งรัฐมนตรีไม่ลงตัว หรือแม้แต่การต่อรองเรื่องบุคคลที่จะรับตำแหน่งรัฐมนตรีในสัดส่วนของพรรคพลังประชารัฐ
ขณะที่พรรคประชาธิปัตย์ต่างปฏิเสธข่าวการต่อรองตำแหน่งจากการร่วมรัฐบาลพรรคพลังประชารัฐ จนกลายเป็นการตั้งกลุ่มการเมืองขั้วที่ 3 โดยนายชวน หลีกภัย ประธานสภาที่ปรึกษาของพรรค ชี้ว่าไม่มีใครตัดสินใจคนเดียวได้ ต้องรอมติคณะกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่
ไพบูลย์ นิติตะวัน
ส่วนนายไพบูลย์ นิติตะวัน หัวหน้าพรรคประชาชนปฏิรูป ยืนยันที่จะสนับสนุนพรรคพลังประชารัฐจัดตั้งรัฐบาลและลงมติเลือก พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นนายกรัฐมนตรี ก่อนเปิดเผยว่าการพูดคุยอย่างไม่เป็นทางการกับพรรคเล็กก็ได้บทสรุปในทิศทางเดียวกัน
ทั้งนี้ แหล่งข่าวใน คสช.เปิดเผยว่า พล.อ.ประวิตร และ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ได้รับการวางตัวให้กลับเข้ามาทำงานในรัฐบาลใหม่และยังคงเป็นรัฐมนตรีในตำแหน่งเดิมด้วย เช่นเดียวกับนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ และนายวิษณุ เครืองาม
สำหรับกระแสข่าวเรื่องกลุ่มการเมืองขั้วที่ 3 นั้น นายภูมิธรรม เวชยชัย เลขาธิการพรรคเพื่อไทย เชื่อว่าเกิดขึ้นจริงและย้ำให้เร่งตัดสินใจและประกาศความชัดเจนโดยเร็ว เพื่อเป็นทางออกของการเมือง และเป็นไปได้ว่าพรรคเพื่อไทยและ 7 พรรคร่วมลงนามในสัตยาบัน อาจเข้าร่วมงานด้วย