ค้นหา
ทีวีออนไลน์
เว็บไซต์ในเครือ
เว็บไซต์บริการ

รวบหนุ่มวัย 33 ปี ข่มขืนสาวนอร์เวย์บนเกาะพะงัน

อาชญากรรม
14 พ.ค. 62
10:21
3,441
Logo Thai PBS
รวบหนุ่มวัย 33 ปี ข่มขืนสาวนอร์เวย์บนเกาะพะงัน
ตำรวจ สภ.เกาะพะงัน จ.สุราษฎร์ธานี จับผู้ต้องหาก่อเหตุล่วงละเมิดนักท่องเที่ยวนอร์เวย์ ขณะที่ ผบ.ตร.ชื่นชมเจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมผู้ต้องหาได้อย่างรวดเร็ว

พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รอง โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) เปิดเผยถึงความคืบหน้าเหตุข่มขืนหญิงนักท่องเที่ยวนอร์เวย์ อายุ 26 ปี เมื่อกลางดึกของวันที่ 12 พ.ค.2562 บริเวณถนนลูกรัง ซอยตรงข้ามห้างสรรพสินค้าบิ๊กซี เกาะพะงัน หมู่ 1 ต.เกาะพะงัน อ.เกาะพะงัน จ.สุราษฎร์ธานี ว่า ได้รับรายงานเพิ่มเติม จาก สภ.เกาะพะงัน ภ.จว.สุราษฎร์ธานี ว่า ภายหลังรับแจ้งเหตุพนักงานสอบสวนได้รับคำร้องทุกข์ไว้ตามกฎหมาย รวบรวมพยานหลักฐานที่เกี่ยวข้อง สอบปากคำพยาน รวมถึงตรวจสอบสถานที่เกิดเหตุ ร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจพิสูจน์หลักฐาน พร้อมกันนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน ลงพื้นที่หาเบาะแส ข้อมูลของผู้ก่อเหตุ และตรวจสอบกล้องวงจรปิดจนกระทั่งสามารถพิสูจน์ทราบตัวผู้ก่อเหตุ

ต่อมาในวันที่ 13 พ.ค.2562 ศาลจังหวัดเกาะสมุย อนุมัติหมายจับชายวัย 33 ปี ในความผิดฐานข่มขืนกระทำชำเราผู้อื่นโดยขู่เข็ญด้วยประการใด ๆ โดยใช้กำลังประทุษร้าย โดยผู้อื่นอยู่ในภาวะที่ไม่สามารถขัดขืนได้ มีอายุความ 20 ปี และในวันเดียวกันเวลา 21.00 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถติดตามจับกุมผู้ต้องหาตามหมายจับ

ผู้ต้องหา สารภาพว่า ก่อเหตุข่มขืนผู้เสียหายจริง พร้อมให้การว่าก่อนเกิดเหตุได้ขับรถจักรยานยนต์ไปตามถนนมายังบริเวณที่เกิดเหตุพบผู้เสียหายกำลังเดินอยู่ จากนั้นจึงอาสาพาผู้เสียหายหากระเป๋าเงินที่ตกหล่น โดยพาผู้เสียหายไปยังสถานที่เกิดเหตุและข่มขืนกระทำชำเราผู้เสียหาย หลังก่อเหตุขับรถจักรยานยนต์หลบหนีไป ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ติดตามจับกุมตัว พร้อมนำส่งพนักงานสอบสวนเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

รอง โฆษก ตร. กล่าวต่ออีกว่า คดีนี้มีความคืบหน้าไปมาก ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถติดตามจับกุมตัวผู้ต้องหาในครั้งนี้ได้แล้ว ซึ่งตนได้รายงานให้ พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. รับทราบแล้ว ซึ่งกล่าวชื่นชมพนักงานสอบสวน ฝ่ายสืบสวน เจ้าหน้าที่ตำรวจในสังกัดทุกส่วนที่ช่วยกันระดมเร่งติดตามจับกุมผู้ต้องหาที่ก่อเหตุมาได้โดยเร็ว

พร้อมกันนี้ยังได้เน้นย้ำกองบัญชาการทุกภาคส่วน ให้การดำเนินการสืบสวนสอบสวนในทุกคดี ด้วยความถูกต้อง รวดเร็ว เป็นธรรม ตามหลักกฎหมาย อาศัยพยานหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์หรือพยานหลักฐานที่ชี้ถึงตัวผู้กระทำความผิดเป็นสำคัญ และต้องสามารถนำผู้ก่อเหตุมาเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมให้ได้โดยเร็ว เพื่อเยียวยาความเสียหาย และสร้างความเชื่อมั่นให้กับพี่น้องประชาชนและสังคม

ข่าวที่เกี่ยวข้อง