สธ.แนะ "สารสกัดน้ำมันกัญชา" ต้องสั่งจ่ายโดยบุคลากรการแพทย์ที่ผ่านอบรม

สังคม
22 พ.ค. 62
09:39
881
Logo Thai PBS
สธ.แนะ "สารสกัดน้ำมันกัญชา" ต้องสั่งจ่ายโดยบุคลากรการแพทย์ที่ผ่านอบรม
กระทรวงสาธารณสุข แนะผู้ป่วยที่ใช้สารสกัดน้ำมันกัญชาทางการแพทย์ ต้องได้รับการสั่งจ่ายโดยบุคลากรทางการแพทย์ที่ผ่านการอบรมของกรมการแพทย์ และกรมการแพทย์แผนไทย

วานนี้ (21 พ.ค.2562) นายแพทย์สุขุม กาญจนพิมาย ปลัดกระทรวงสาธารณสุข ให้สัมภาษณ์ว่า กระทรวงสาธารณสุข คำนึงถึงความปลอดภัยของผู้ป่วยที่ต้องการรักษาด้วยสารสกัดน้ำมันกัญชา ซึ่งผู้ป่วยไม่สามารถนำมาใช้รักษาโรคได้ด้วยตนเอง ต้องได้รับการรักษา สั่งจ่ายและควบคุมจากบุคลากรทางการแพทย์ที่ผ่านการอบรมหลักสูตรของกรมการแพทย์และกรมการแพทย์แผนไทย เพื่อให้ผู้ป่วยมีความปลอดภัย ได้รับการรักษาที่มีประสิทธิผล มีความเป็นธรรมในการเข้าถึงการรักษา

นายแพทย์สุขุม ระบุว่า ได้มอบหมายให้กรมการแพทย์ จัดอบรมการนำกัญชามาใช้ประโยชน์ทางการแพทย์แก่แพทย์ ทันตแพทย์ เภสัชกร ทั้งหน่วยงานในกระทรวงสาธารณสุข และนอกกระทรวงสาธารณสุข อาทิ กรุงเทพมหานคร กระทรวงกลาโหม กระทรวงมหาดไทย สภากาชาดไทย มหาวิทยาลัย เอกชนและบุคคล ซึ่งในปีงบประมาณ 2562 กำหนดจัด 6 รุ่น ตั้งแต่เดือน เม.ย. - ก.ย. และรุ่นพิเศษสำหรับบุคลากรกระทรวงสาธารณสุขในวันที่ 17 – 18 มิ.ย.2562

ขณะนี้อบรมรุ่นที่ 1 แล้ว มีผู้ผ่านการประเมิน 175 คนจากที่เข้ารับการอบรม 192 คน รุ่นที่ 2 จะอบรมวันที่ 23 – 24 พ.ค.นี้ ขณะนี้เปิดลงทะเบียนออนไลน์รุ่นที่ 3 – 6 พร้อมกันทางเว็บไซต์กรมการแพทย์ http://www.dms.moph.go.th/dms2559 จำนวนรุ่นละ 300 คน และได้ให้กรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก อบรมวิทยากร ครู ก หลักสูตรการใช้กัญชาทางการแพทย์แผนไทย แก่แพทย์แผนไทย แพทย์แผนไทยประยุกต์ เภสัชกร หมอพื้นบ้านอีกด้วย

ทั้งนี้ ในการใช้สารสกัดกัญชาทางการแพทย์แผนปัจจุบัน ใช้ในการดูแลรักษาและควบคุมอาการของผู้ป่วยที่ได้รับการรักษาด้วยวิธีมาตรฐานแล้วไม่ได้ผล ไม่แนะนำให้ใช้เป็นการรักษาเริ่มต้น โดยใช้รักษาใน 3 กลุ่ม คือ

  1. สารสกัดกัญชาได้ประโยชน์ในการรักษาซึ่งมีข้อมูลทางวิชาการที่สนับสนุนชัดเจน ได้แก่ ภาวะคลื่นไส้อาเจียนในผู้ป่วยที่ได้รับยาเคมีบำบัด โรคลมชักที่รักษายากและที่ดื้อต่อยารักษา ภาวะกล้ามเนื้อหดเกร็งในผู้ป่วยปลอกประสาทเสื่อมแข็ง ภาวะปวดประสาทที่รักษาด้วยวิธีอื่นไม่ได้ผล

  2. สารสกัดกัญชาน่าจะได้ประโยชน์ในการควบคุมอาการ ซึ่งควรมีข้อมูลทางวิชาการที่สนับสนุนหรือการวิจัยเพิ่มเติม เช่น โรคพาร์กินสัน อัลไซเมอร์ โรควิตกกังวล โรคปลอกประสาทอักเสบ ผู้ป่วยมะเร็งระยะสุดท้าย เป็นต้น

  3. สารสกัดกัญชาอาจมีประโยชน์ในการรักษาแต่ยังขาดข้อมูลจากการวิจัยสนับสนุนที่ชัดเจนเพียงพอในด้านความปลอดภัยและประสิทธิผล ซึ่งต้องศึกษาวิจัยในหลอดทดลองและสัตว์ทดลองก่อนนำมาศึกษาวิจัยในมนุษย์ เช่น การรักษามะเร็ง และโรคอื่น ๆ

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง