วันนี้ (27 มิ.ย.) เวลา 10.00 น. ที่หอประชุมพระนารายณ์ อาคารรัตนเทพสตรี มหาวิทยาลัยราชภัฎเทพสตรี พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม เป็นประธานมอบคืนโฉนดและทรัพย์สินคืนความสุขให้ประชาชน ลดความเหลื่อมล้ำของสังคมครั้งที่ 12 โดยมีผู้แทนหน่วยงานราชการต่างๆ ให้การต้อนรับ
ระหว่างที่ พล.อ.ประวิตร กำลังเดินเข้าห้องประชุม เพื่อเปิดงานปรากฎว่า ได้มีชาวบ้านกว่า 30 คน ที่เดินทางมาจาก จ.นครราชสีมา จ.ชัยภูมิ จ.ขอนแก่น และ จ.เลย ซึ่งเป็นผู้เสียหายที่ไม่ได้รับความเป็นธรรมจากการที่ถูกริบโฉนดที่ดินคืน เดินทางมาร้องทุกข์ขอความเป็นธรรมต่อ พล.อ.ประวิตร โดยเรียกร้องให้มีการตรวจสอบความโปร่งใส ในการดำเนินโครงการแก้ปัญหาหนี้นอกระบบและเงินกู้ดอกเบี้ยโหด ซึ่งรองนายกรัฐมนตรีได้รับเรื่องราวร้องทุกข์ไว้ พร้อมสั่งการให้ชุดทำงาน ศปอส.ตร. โดย พล.ต.ต.บุญลือ กอบางยาง รองผบช.ภาค 4 เป็นผู้รับเรื่องราวและสอบถามข้อเท็จจริง
นางแสงจันทร์ บุตรเขียว ชาวชัยภูมิ อายุ 48 ปี กล่าวว่า ตนเป็นหนึ่งในผู้เสียหายที่นำโฉนดที่ดินไปจำนองกับนายทุนเงินกู้ ในพื้นที่ อ.แก้งคร้อ จ.ชัยภูมิ ซึ่งมีนายสุพล ผลสมบูรณ์สุข เป็นนายทุนเงินกู้ โดยได้เงินจากการจำนองโฉนดที่ดินมากว่า 300,000 บาท และตนพยายามที่จะไถ่ถอน แต่นายทุนให้นำเงินกว่า 1.7 ล้านบาท มาไถ่ถอน
ต่อมาได้มีการดำเนินการเจรจาประนอมหนี้ ในการไถ่ถอน และเข้าสู่กระบวนการในการคืนโฉนดของทางจังหวัด เมื่อครั้งที่ผ่านมา ซึ่งจัดขึ้นใน จ.นครราชสีมา โดยจัดคู่ขนานกับที่จ.พิษณุโลก ทั้งนี้ ภายหลังจากได้รับการคืนโฉนด ปรากฏว่า ระหว่างที่เดินทางกลับ จนถึง จ.ชัยภูมิ ได้มีการริบโฉนดคืน ทำให้ตนเสียสิทธิ์ในการที่จะได้โฉนดกลับไปเป็นของตน
![](https://news.thaipbs.or.th/media/TSNBg3wSBdng7ijM75Xkg7zNSEW3NXvM8PhBPkmgbw0.png)
ขณะที่ผู้เสียหายอีกคน กล่าวว่า ในการคืนโฉนดครั้งที่ผ่านมา ซึ่งจัดทาง จ.นครราชสีมา จัดขึ้นพบว่า ชื่อของตนถูกนำไปสวม อ้างในการรับโฉนด ทั้งที่ความเป็นจริง ตนไม่ได้รับโฉนดคืนแม้แต่ครั้งเดียว จึงสงสัยว่า ตำรวจที่งานเรื่องนี้ มีความจริงใจในการแก้ปัญหาเรื่องปากท้องของประชาชนอย่างแท้จริงหรือไม่ จึงอยากเรียกร้องให้ พล.อ.ประวิตร ลงมาตรวจสอบปัญหาที่เกิดขึ้น ก่อนจะสร้างปัญหาบานปลายไปถึงรัฐบาล ที่ยืนยันมาตลอดว่าจะอยู่ข้างประชาชน
ระหว่างเดินทางกลับถึง จ.ชัยภูมิ ได้มีการริบโฉนดคืน ทำให้เสียสิทธิ์ ในการได้โฉนดกลับคืน ส่วนอีกรายพบว่า ถูกนำชื่อไปสวม อ้างว่าได้รับคืนโฉนด ทั้งที่ความเป็นจริง ไม่ได้รับโฉนดคืนแม้แต่ครั้งเดียว จึงสงสัยว่า ตำรวจที่งานเรื่องนี้ มีความจริงใจในการแก้ปัญหาเรื่องปากท้องของประชาชนอย่างแท้จริงหรือไม่
![](https://news.thaipbs.or.th/media/TSNBg3wSBdng7ijM75Xkg7zNSEW3NXdBRiRK7buMziu.png)
ด้าน พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า การแก้ปัญหาหนี้นอกระบบ ถือเป็นหัวใจสำคัญที่รัฐบาลได้ขับเคลื่อนนโยบายแบบบูรณาการ เพื่อทำให้เกิดความเป็นธรรมทั้งเจ้าหนี้และลูกหนี้ แก้ปัญหาความเหลื่อมล้ำทางสังคม ยกระดับชีวิตของประชาชนให้ดีขึ้น ในวันนี้ถือเป็นครั้งที่12 ได้คืนโฉนดให้แก่ผู้เสียหายที่ไม่ได้รับความเป็นธรรม จากการทำสัญญากู้ยืม ซึ่งที่ผ่านมาได้ดำเนินการทั่วประเทศ โดยภาพรวมถือว่าเป็นที่พอใจ และยืนยันว่าจะเดินหน้าต่อหากได้อยู่ต่อเพราะถือเป็นวาระแห่งชาติของรัฐบาลสมัยหน้าด้วย
![](https://news.thaipbs.or.th/media/TSNBg3wSBdng7ijM75Xkg7zNSEW3NXfx8n09QkXg7K6.png)
ประชาชนที่ได้รับโฉนดคืนไป ก็ขออย่านำไปกู้นอกระบบหรือนำไปจำนองอีก ก็อยากจะให้นำไปใช้ให้เกิดประโยชน์ใช้ทำมาหากินอย่างถูกต้อง อีกทั้งรัฐบาลมีความตั้งใจที่จะทำคนยากจน เข้าสู่ระบบแหล่งการเงินมากขึ้น โดยไม่ต้องพึงแหล่งเงินกู้นอกระบบและสนับสนุนระบบฟิโกไฟแนนซ์นาโนไฟแนนซ์ทำให้นายทุนเข้าสู่ระบบมากที่สุด เพื่อไม่ให้ประชาชนมีหนี้สิน
![](https://news.thaipbs.or.th/media/TSNBg3wSBdng7ijM75Xkg7zNSEW3NXaODecZGWKtZsD.png)
สำหรับภาพรวมของการมอบคืนโฉนดที่ดิน มีลูกหนี้ได้รับโฉนดคืนทั่วประเทศ 1,038 ราย คืนโฉนด 952 ฉบับ คิดเป็นเนื้อที่ 1,696 ไร่ 3 งาน 97.7 ตารางวา คิดเป็นมูลค่า 3,008,340,135 บาท โดยในพื้นที่ตำรวจภูธรภาค 1 ไกล่เกลี่ยได้ 567 ราย รวมโฉนด 661 ฉบับเนื้อที่ 1,050 ไร่ 3 งาน 74 ตารางวา มูลค่า 2,896 ล้านบาทเศษ
อย่างไรก็ตาม จากการดำเนินการตั้งแต่เดือน ก.ค.ปีที่ผ่านมา ถึงปัจจุบันได้คืนโฉนดให้กับประชาชนแล้ว 25,052 ราย คืนโฉนดจำนวน 21,312 ฉบับ เนื้อที่ 59,345 ไร่ 2 งาน 40.42 ตารางวา คิดเป็นมูลค่า 30,622,828,496 บาท