วันนี้ (30 มิ.ย.2562) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ทหารมณฑลทหารบกที่ 41 พร้อมด้วยกำลังเจ้าหน้าที่ควบ คุมไฟป่าพรุควนเคร็ง และชาวบ้านอาสาสมัครในพื้นที่รวมกว่า 100 คน พร้อมรถบรรทุกน้ำขนาด 6,000 ลิตร และรถบรรทุกขนาดใหญ่ ลงพื้นที่ป่าพรุควนเคร็ง บริเวณหมู่ 12 ต.การะเกด อ.เชียรใหญ่ จ.นครศรีธรรมราช เพื่อฉีดน้ำสกัดไฟป่า ที่ลุกไหม้ขยายเป็นวงกว้างไม่ให้เข้าไปในสวนปาล์มของชาวบ้านเพิ่มเติม
นายธนากร รักษ์ธรรม หัวหน้าสถานีควบคุมไฟป่า พื้นที่ลุ่มน้ำปากพนังอันเนื่องมาจากพระราชดำริ ระบุว่า ไฟไหม้ป่าพรุ ตั้งแต่วันที่ 28 มิ.ย.ที่ผ่านมา จึงได้ระดมเจ้าหน้าที่ไฟป่า เร่งสกัดอย่างเต็มที่ ส่วนไฟที่ลุกไหม้ป่าพรุควนเคร็งเกิดขึ้น 2 จุดใหญ่ ซึ่งการควบคุมเพลิงทำได้ยาก เนื่องจากมีกระแสลมแรง ประกอบกับพื้นดินป่าพรุมีสภาพแห้งแล้ง เพราะฝนทิ้งช่วงมาเป็นระยะยาวนาน ส่งผลทำให้เกิดไฟป่า ลุกลามขยายตัวอย่างรุนแรง

ขณะที่กองทัพภาคที่ 4 มอบหมายให้มณฑลทหารบกที่ 41 จัดกำลังเข้ามาในพื้นที่ เพื่อร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อช่วยดับไฟป่าเพื่อไม่ให้ลุกลามมากไปกว่านี้ พร้อมทั้งวางกำลังเฝ้าระวังสถานการณ์อย่างใกล้ชิด
ขณะนี้สถานการณ์ไฟป่ายังคงลุกลามขยายตัวอย่างต่อเนื่อง สร้างความเสียหายพื้นที่ป่าพรุ และสวนปาล์มของชาวบ้านไปแล้วกว่า 1,200 ไร่ ซึ่งเจ้าหน้าที่ทั้งภาครัฐ และชาวบ้านยังคงช่วยกันตรึงกำลังในพื้นที่ เพื่อป้องกันไฟป่าลุกลามขยายเป็นวงกว้างไปมากไปกว่านี้

ก่อนหน้านี้เมื่อวันที่ 7 พ.ค.ที่ผ่านมา เกิดไฟป่าพื้นที่ป่าพรุควนเคร็ง ต.เคร็ง อ.ชะอวด จ.นครศรีธรรม ราช ทำให้เกิดเป็นควันกลุ่มใหญ่ และขยายวงกว้างมากขึ้น จากการสำรวจพบว่า เกิดไฟป่า 3 จุด เจ้าหน้าที่ควบคุมเพลิงไว้ได้เพียง 2 จุด
ป่าพรุควนเคร็ง อยู่ในพื้นที่เชื่อมต่อระหว่าง จ.นครศรีธรรมราช สงขลา และพัทลุง มีเนื้อที่รวมกว่า 35,000 ไร่ เป็นพื้นที่ที่มีระบบนิเวศที่สำคัญ เนื่องจากเป็นแหล่งกักเก็บน้ำจืด เป็นตัวกรองสารพิษจากกิจกรรมของมนุษย์ รวมถึงมีพันธุ์ไม้หลากชนิด โดยเฉพาะเสม็ดขาวและพืชกระจูด ซึ่งชาวบ้านนำมาแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์จักสานสร้างรายได้มายาวนาน เมื่อปี 2553 เกิดไฟไหม้ป่าพรุควนเคร็งครั้งใหญ่ สร้างความเสียหายต่อพื้นที่ป่าพรุนับหมื่นไร่
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
ไฟไหม้ป่าพรุควนเคร็ง จ.นครศรีธรรมราช