วันนี้ (1 ส.ค.62) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การหารือระหว่างสมาคมรถจักรยานยนต์รับจ้างแห่งประเทศไทย สมาคมแท็กซี่สาธารณะไทย และกระทรวงคมนาคม
นายศดิส ใจเที่ยง ประธานสมาคมแท็กซี่สาธารณะไทยและคณะทำงานจัดระเบียบรถบริการสาธารณะภายในท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ เสนอให้พิจารณาทบทวนการใช้มาตรมิเตอร์ทั่วประเทศ และทบทวนอายุปีรถแท็กซี่ จากเดิมที่รถแท็กซี่จะต้องเปลี่ยนทุก 9 ปี ขอให้เป็น 12 ปีแทน เนื่องจากปัจจุบันแท็กซี่ต้องแบกภาระต้นทุนสูงขึ้น และหากเป็น Taxi OK จะต้องติดตั้งอุปกรณ์ รวมแล้วประมาณ 3-4 หมื่นบาท ขณะที่ผู้โดยสารก็เรียกใช้แอปพลิเคชันมีน้อยมาก นอกจากนี้ยังขอให้พิจารณาค่าสัมภาระหรือค่าเซอร์ชาร์จเพิ่มขึ้น
ขณะเดียวกันขอให้ผู้ให้บริการเรียกรถโดยสารผ่านแอปพลิเคชั่น ดำเนินการให้ถูกต้องเหมือนกับแท็กซี่สาธารณะ เช่น จำนวนซีซี ของรถ การตรวจ ทะเบียนประวัติอาชญากรรมของผู้ขับขี่ การติดตั้งอุปกรณ์ส่วนควบตามที่กฎหมายกำหนด การแต่งกาย บทลงโทษหากเกิดการปฏิเสธผู้โดยสาร
นายเฉลิม ช่างทองมะดั่น ประธานสมาคมรถจักรยานยนต์รับจ้างแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า ต้องการให้รัฐเเก้ไขปัญหาการให้บริการทับซ้อนกันผ่านทางแอปพลิเคชั่น ซึ่งที่ผ่านมารถจักรยานยนต์รับจ้างให้บริการถูกต้องตามกฎหมายมีที่ตั้งวินอย่างชัดเจน ไม่สามารถรับผู้โดยสารข้ามวินได้ ขณะเดียวกันกรมการขนส่งทางบกมักจะรอการประกาศจากรัฐบาลทำให้การขึ้นทะเบียนใหม่จะต้องใช้เวลานาน พร้อมสอบถาม ความคืบหน้าการดำเนินคดีกับแกร็บที่ต้องปิดเเอปพลิเคชันนี้ เพราะสร้างความไม่เสมอภาคในการให้บริการ
แอปพลิเคชันที่เข้ามาเพื่อหารายได้ แต่ที่ผ่านมามอเตอร์ไซค์รับจ้างต้องทำให้ถูกกฎหมายมีที่ตั้งวินชัดเจนไม่สามารถรับคนข้ามวินได้ต้องไม่กระทบกับวินอื่น แต่รู้สึกไม่สบายใจที่จะทำให้แอปฯ ถูกกฎหมายที่ผ่านมาการขึ้นทะเบียนใหม่ ขนส่งไม่มีอำนาจในการจัดระเบียบ ซึ่งต้องรอการประกาศจากรัฐบาล ก็อยากให้แก้ไขตรงนี้ด้วย
ด้านนายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม กล่าวว่า จะหาวิธีแก้ไขปัญหาดังกล่าว และจะต้องหาวิธีการอยู่ร่วมกันไม่มีใครได้เปรียบเสียเปรียบ
ส่วนนโยบายของพรรคภูมิใจไทยที่จะผลักดันแกร็บให้ถูกกฎหมาย วันนี้จากการหารือผู้ประกอบการเองก็เห็นด้วย และคิดว่าอะไรก็ตามที่จะมาช่วยให้การบริการดีขึ้น ลดค่าใช้จ่ายลงได้ก็เห็นด้วย นอกจากนี้ยังได้สั่งการให้กรมการขนส่งทางบกไปดูอย่างละเอียด และยืนยันว่า บริษัทที่ให้บริการต้องเป็นบริษัทไทย ของคนไทย เพื่อให้ภาษีอยู่ในประเทศ
ที่ผ่านมากรมการขนส่งทางบกได้แจ้งความดำเนินคดีไว้แล้ว เมื่อวันที่ 31 พ.ค.2559 ส่วนจะระงับการให้บริการ เราไม่มีอำนาจ ก็ต้องดำเนินการไปตามหลักกฎหมาย จะไปเอาแต่ความคิดว่า จะต้องสั่งให้หยุดเดี๋ยวนี้ หากสั่งให้หยุดเดี๋ยวนี้แล้วเขาจะหยุดไหม ก็คงไม่หยุด
นอกจากนี้ขอให้กลุ่มรถแท็กซี่และวินรถจักรยานยนต์รับจ้างมีตัวแทน มาหารืออีกครั้งในวันที่ 8 ส.ค.นี้ และให้กรมการขนส่งทางบกไปทำการบ้านในการแก้ไขปัญหาดังกล่าวด้วย