วันนี้(25ก.ย.2562)นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ นำภาคเอกชน 30 รายเพื่อขยายตลาดส่งออก ณ เมือง มุมไบ-เจนไน สาธารณรัฐอินเดีย ระหว่างวันที่ 24- 28 กันยายน 2562

นายจุรินทร์ ระบุว่า ปัญหาสงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯและจีน กระทบกับหลายประเทศส่งผลให้การส่งออกชะลอตัว แต่อินเดียไม่กระทบมาก เนื่องจากเศรษฐกิจอินเดียมีความเข้มแข็ง เน้นการพึ่งพาการบริโภคภายในประเทศเป็นหลัก โดยอินเดียมีประชากรมากกว่า 1300 ล้านคน ตลาดอินเดียจึงเป็นตลาดที่มีศักยภาพ จึงเป็นโอกาสของสินค้าไทย
การเยือนอินเดียครั้งนี้ ถือเป็นครั้งแรกที่ระดับรองนายกรัฐมนตรีนำภาคเอกชนไทย 5 กลุ่มธุรกิจสำคัญได้แก่ ยางพารา ไม้ยางพารา แป้งมันสำปะหลัง วัสดุก่อสร้าง และบริการโลจิสติกส์ มาพบเอกชนอินเดียอย่างเป็นทางการเพื่อผลักดันการค้าไทยและอินเดียให้เพิ่มสูงขึ้น
โดยมีเป้าหมายขยายตลาดสินค้าเกษตรของไทยสู่ตลาดอินเดีย โดยเฉพาะผลิตภัณฑ์ไม้ยาง ยางพารา เพื่อใช้เป็นวัตถุดิบในอุตสาหกรรมการผลิตเฟอร์นิเจอร์และยางล้อรถยนต์ของอินเดียให้เพิ่มขึ้นด้วย

โดยในวันนี้ได้มีการทำข้อตกลง (MOU) 3 ฉบับ คือ การลงนามบันทึกความเข้าใจระหว่างสมาคมธุรกิจไม้ยางพาราของไทยและสมาคมผู้ผลิตและผู้ค้าเฟอร์นิเจอร์แห่งอินเดีย การลงนามบันทึกความเข้าใจระหว่าง สภาธุรกิจไทย-อินเดียและบริษัท Global Linker ซึ่งเป็นวิสาหกิจเริ่มต้นหรือสตาร์ทอัพที่ดำเนินธุรกิจเกี่ยวกับเครือข่ายคลังสินค้าออนไลน์ เพื่อส่งเสริมการดำเนินธุรกิจของวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมของไทยและอินเดีย และการลงนามบันทึกความเข้าใจระหว่างสภาธุรกิจไทย-อินเดียและสมาคมอุตสาหกรรมแห่งบอมเบย์
และในเดือนพฤศจิกายนจะมีการลงนามร่วมกันระหว่างกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศกับ เว็บไซต์ Bigbasket ซึ่งเป็นอีคอมเมิร์ซรายใหญ่ในอินเดีย เพื่อจำหน่ายสินค้าไทยผ่านออนไลน์บนแอปพลิเคชั่น Bigbasket ซึ่งจะเป็นช่องทางในการขยายตลาดสินค้าไทยในอินเดีย

นอกจากนี้ ได้มีการหารือกับผู้บริหารห้าง ฟิวเจอร์กรุ๊ปห้างค้าปลีกรายใหญ่ในอินเดีย ที่มีสาขากว่า 2,000 สาขามีลูกค้ามากกว่า 600 ล้านคน ซึ่งห้างดังกล่าวสนใจนำเข้าสินค้าอาหาร เครื่องสำอาง ซึ่งไทยมีศักยภาพ โดยมอบหมายให้กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ ไปสำรวจว่าอินเดียมีความต้องการสินค้าในกลุ่มใดเพิ่มเติมและจะมีการจัดงานแสดงสินค้าไทยในอินเดียด้วย
โดยปีที่แล้ว การค้าระหว่างไทยและอินเดียมีมูลค่า 12.46 พันล้านเหรียญสหรัฐฯเพิ่มขึ้นร้อยละ 20 โดยสินค้าที่ไทยส่งออกมาอินเดียมีมูลค่า 7.63 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ เพิ่มร้อยละ 17 สินค้าที่ส่งออกที่สุด คือ เคมีภัณฑ์ เม็ดพลาสติก รถยนต์ ชิ้นส่วนยานยนต์ แอร์คอนดิชั่น อัญมณี โดยในส่วนของอัญมณีส่งออกมาอินเดียเพิ่มร้อยละ 72 ถือว่ามี ขยายตัวสูงมาก
แท็กที่เกี่ยวข้อง: